ตำนานเสียงสวดมนต์ปริศนา และเปรตวัดมเหยงคณ์

            ที่ตำบลหันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยาที่นั่นมีวัดที่โด่งดังอยู่วัดหนึ่งชื่อว่าวัดมเหยงคณ์ ซึ่งวัดแห่งนี้เคยเป็นวัดร้างมาก่อนและปัจจุบันก็ยังมีซากปรักหักพังเก่าแก่โบราณตั้งแต่สมัยยังเป็นวัดร้างให้เรายังคงได้เห็นกันอยู่ ซึ่งซากปรักหักพังที่แสดงให้เห็นอย่างนี้เป็นสิ่งที่บอกกล่าวให้กับเราได้รู้ว่าในครั้งหนึ่งนั้น

ที่วัดแห่งนี้เคยเป็นวัดที่มีความสวยงามมาก่อน ซึ่งในปัจจุบันนี้ที่วัดมเหยงคณ์นี้จะมีส่วนที่เป็นสิ่งปลูกสร้างขึ้นมาใหม่และรวมถึงยังมีสิ่งปลูกสร้างเก่าที่เป็นซากปรักหักพังซึ่งทั้งสองสิ่งนี้ยังคงอยู่ด้วยกันและสามารถอยู่ด้วยกันได้และผสมกลมเกลียวกันเป็นอย่างดี และแน่นอนสำหรับวัดที่มีประวัติอันยาวนาน

และเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยโบราณย่อมมีประวัติเกี่ยวกับเรื่องของวิญญาณมาลาเล่าให้เราได้ฟังเป็นตำนานที่เล่ามาจากรุ่นสู่รุ่นให้ลูกหลานได้ฟังกัน ชาวบ้านได้เล่าต่อๆกันมาว่าที่วัดแห่งนี้สมัยที่ยังคงเป็นวัดร้างยังไม่มีใครเข้ามาฟื้นฟูวัดแห่งนี้

ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณใกล้กับวัดเก่าแห่งนี้ในช่วงเช้าตรู่มักจะได้ยินเสียงสวดมนต์ดังแว่วออกมาจากทางวัดซึ่งจะมาจากทางอุโบสถเก่า บทสวดมนต์นั้นจะเป็นบทสวดมนต์ที่มีความไพเราะเพราะพริ้งมีจังหวะจะโคนที่ค่อนข้างช้าหากเทียบกับบทสวดมนต์ในสมัยปัจจุบันนี้

และถ้าเกิดใครก็ตามสงสัยอยากจะรู้ว่าใครสวดมนต์ชาวบ้านก็จะเข้าไปค้นหาความจริงด้วยการเดินตามเสียงบทสวดฉันไปแต่เมื่อไปถึงอุโบสถล้างแล้วก็จะไม่พบว่ามีใครนั่งสวดมนต์อยู่ในอุโบสถนั้นเลยทั้งที่เสียงสวดมนต์นั้นยังคงดังก้องอยู่ และนอกจากชาวบ้านจะได้ยินเสียงสวดมนต์กันแล้วยังมีการเล่าเรื่องของความน่ากลัว

ที่ชาวบ้านเคยได้ประสบพบเจอกันว่าในอดีตกาลนั้นวัดมเหยงคณ์แห่งนี้เคยเป็นวัดที่มี เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์นั่นก็คือเคยมีสงครามเกิดขึ้นระหว่างไทยและพม่าดังนั้นที่บริเวณวัดแห่งนี้จึงมีดวงวิญญาณของทหารไทยและพม่าที่รบราฆ่าฟันกันจนเสียชีวิต เป็นจำนวนมากซึ่งตำนานที่ต่อมาก็คือตำนานของดวงวิญญาณของเหล่านักรบชาย

ชาติทหารทั้งหลายที่เสียชีวิตในบริเวณวัดแห่งนี้ ดังนั้นผู้คนมักจะเห็นดวงวิญญาณของเราทหารเดินไปเดินมาภายในบริเวณวัดแห่งนี้นอกจากนี้ยังเห็นเป็นผีเปรตเดินออกหาอาหารอยู่ภายในบริเวณวัดด้วย ซึ่งตำนานนี้เป็นตำนานที่มีการบอกเล่าต่อต่อกันมา ในปัจจุบันหลังจากที่มีการซ่อมแซมวัดอย่างสวยงามก็ไม่มีใครพบเห็นวิญญาณอีกเลย

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนัน ไม่ผ่านเอเย่นต์ 

รวมตำนานผี

เชื่อว่าหลายๆคนก็คงจะไม่เชื่อเรื่องลีลับกันทั้งนั้นแต่ก็ไม่เคยกล้าไปลองดีเป็นคนดีกว่าผีมากๆจนไม่กล้าไปลองดีแต่ก็ยังมีคนที่ไม่เชื่อเรื่องลี้ลับและไปลองดีจนเจอดีเข้าและก็ไม่กล้ากลับ มาลองดีอีกหลังจากนั้นก็กลายเป็นคนที่กลัวผีไปตลอดกาล

และอาจจะเป็นคนที่หลังจากที่มีลูกหลานก็จะเจอหรือเปล่าไม่ให้ไปทำกระทำแบบที่เขาเคยทำและก็เป็นสิ่งที่พบบ่อยๆในคนที่เธอไม่กลัวผีนะค่ะและสามารถทำได้จากชาวบ้านละแวก นั้นที่เคยไปลองดีหลายๆคนก็จะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่กล้าไปอีกแล้ว

เจอดีเหมือนกันทุกคน แล้ววันนี้เราก็จะมาบอกเกี่ยวกับตำนานที่ชาวบ้านเคยไปลองดีกันมาทุกคนไปดูกันแล้วถามว่าจะมีตำนานอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

1.ซอยรามคำแหง 32 หลายๆคนเข้าไปลึกๆก็จะเห็นบ้านหลังใหญ่สวยงามแต่ถ้าเราไปถามชาวบ้านที่อยู่ละแวกนั้นก็จะรู้ได้ว่าเคยมีเหตุการณ์น่ากลัวเกิดขึ้นกับบ้านหลังนี้ซึ่งมีชาวต่างชาติได้มาพักที่บ้านหลังนี้จะได้จ้างหน้าบ้านไว้อยู่มาวันหนึ่ง

เขาต้องการที่จะออกไปนอกบ้านเขาจึงออกไปท้องฟ้าและกินแม่บ้านไว้ในบ้านอยู่คนเดียวหลังจากนั้นก็มีกลุ่มชนกลุ่มหนึ่งได้เข้ามาในบ้านและพยายามที่จะขโมยทรัพย์สินแต่หน้าบ้านก็พยายามจะห้ามไว้

หลังจากนั้นกลุ่มโจรพวกนั้นก็ได้ค่ะแม่บ้านตายในบ้านหลังนั้นก็มีคนได้ยินเสียงสาวใช้ร้องโหยหวนและหลังจากที่ชาวต่างชาติกลับมาเขาก็ทนกับเหตุการณ์นี้ไม่ได้จนต้องย้ายออกไปและหลายๆคนก็จะเห็นว่าเขาใช้คนนั้นจะมายืนอยู่หน้าบ้านหรือจะเดินวนไปวนมาอยู่รอบบ้านตลอดเวลาซึ่งก็ไม่มีใครที่กล้าจะเข้าไปเลยสักคน 

2.สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ยังศาลย่านาคตั้งอยู่  มาจากเรื่อง มาจากเรื่องของความ มาจากเรื่องของความรักของ มาจากเรื่องของความรักของ และหลายๆคนก็คงจะรู้จักตำนานของแม่นาคพระโขนง แม่นาค พระขโนงมีสามีชื่อว่ามากอาศัยอยู่ด้วยกัน

จนมีอยู่มาวันหนึ่งแม่นาคตั้งครรภ์และก็มีทหารนายหนึ่งได้มานำตัวมากไปเป็นอาหารตอนนั้นแม่นาคกำลังจะคลอดแล้วแต่มากก็ไม่ ไม่มีเวลาที่จะดูแลแม่นาคได้แต่เขาก็สัญญากับแม่นาคว่า จะไปหาทันที ไปเป็นทหารเสร็จ

ส่วนใหญ่หลังจากที่มากไปเป็นทหารเสร็จก็รีบกลับมาหาป้าแต่ก็ไม่รู้ว่ามาได้เสียชีวิตไปแล้วจากการที่ลูกของเธอไม่ยอมกลับหัวจึงทำให้เธอเสียเลือดเป็นอย่างมากและจากไปแต่มากก็ไม่ทันได้รู้แล้วกลับไปจนอยู่มาวันหนึ่งเขาได้รู้เข้าจึงพยายามที่จะให้แม่นาคไปสู่สุคติ

เพราะแม่นาคชอบหลอกหลอนชาวบ้านจนทาบ้านอยู่กันไม่ได้เลยมีอยู่วันหนึ่ง มีพระรูปหนึ่งด้านมาปราบแม่นาคได้และได้นำกะโหลกหน้าผากของแม่นากมาไว้ที่วัดซึ่งก็ได้ทำศาลของแม่นาคพระโขนงเอาไว้ให้แม่นาคพระโขนงก็ได้เริ่มทำดีกับทุกคน

และถ้ามีคนมาขอเกี่ยวกับทหารอย่างเช่นไม่อยากให้ตัวเองเป็นทหารหรือไม่อยากให้มีสามีเป็นทหารก็จะสมหวังเพราะแม่นาคไม่ชอบทหารชอบมาถ้าความรักของเขาไปซึ่งเชื่อกันว่าแม่นาคพระโขนงก็ยังวนเวียนอยู่ในสถานที่แห่งนั้นไม่เคยเปลี่ยน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  เว็บพนัน

ประวัติหลวงพ่อรวยวัดตะโกจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

        สำหรับใครที่อยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาหรือจังหวัดข้างเคียงนั้นต่างก็จะต้องรู้จักหลวงพ่อรวยกันเป็นอย่างดีเนื่องจากว่าท่านมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากเป็นพระอาจารย์ที่มีคนนับหน้าถือตาโดยท่านเป็นพระภิกษุสงฆ์ที่พระจำพรรษาอยู่ที่วัดตะโก

มาตั้งแต่บวชเรียนจนถึงตอนที่ท่านมรณภาพซึ่งท่านได้มีการครองผ้าเหลืองมาอย่างยาวนานถึง 72 พรรษาเลยทีเดียวสำหรับประวัติของหลวงพ่อรวยนั้นแต่เดิมหลวงพ่อรวยนั้นชื่อว่าสำรวยฉันเป็นคนจังหวัดพระนครศรีอยุธยามาตั้งแต่เกิดโดยเกิดที่หมู่บ้านตะโกนี่เองครอบครัวของท่านนั้นมีฐานะยากจนโดยครอบครัวของท่านนั้น

มีพี่น้องด้วยกันทั้งหมด 8 คนและท่านเริ่มบวชเป็นสามเณรเมื่อตอนที่ท่านอายุได้ 16 ปีหลังจากที่บวชเป็นสามเณรเรียบร้อยแล้วเมื่อเมื่อท่านอายุได้ครบ 20 ปีท่านก็ไปบวชเป็นพระซึ่งท่านก็จำพรรษาอยู่ที่วัดตะโกนั่นเองไม่เคยไปที่ไหนและท่านได้มีการไปบวชเรียนศึกษาวิชากับอาจารย์หลายสำนักต่างๆมาก

ทำให้ท่านนั้นมีความรู้ความสามารถในหลายด้านมากเลยทีเดียวท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทำให้มีคนเลื่อมใสเคารพศรัทธาท่านมาโดยตลอดโดยหลวงพ่อรวยนั้นถือว่าเป็นพระเกจิชื่อดังระดับประเทศเลยทีเดียวหากใครยังนึกถึงหลวงพ่อรวยไม่ออกให้นึกถึงเครื่องรางของขลังที่เป็นเลสข้อมือนำโชคซึ่งท่านเป็นผู้คิดค้นองค์แรกของประเทศ  ปัจจุบันนี้หลวงพ่อรวยได้มีการละสังขารไปเรียบร้อยแล้ว

ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2560  โดยท่านเสียชีวิตด้วยการละสังขารเนื่องจากว่ามีอายุสูงมากแล้วเธอที่ฉันเสียชีวิตนั้นท่านอายุได้ 95 ปี 7 เดือนกับอีก 10 วันซึ่งในช่วงที่ท่านเสียชีวิตนั้นทุกคนทั่วทั้งประเทศต่างก็เศร้าโศกเสียใจจากการจากไปของหลวงพ่อรวยกันเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าหลวงพ่อรวยนั้นมีลูกศิษย์ลูกหาอยู่แทบทุกจังหวัด

ทั่วประเทศเลยทีเดียว สำหรับหลวงพ่อรวยนั้นเป็นพระที่มีความเป็นอยู่ที่สมถะเรียบง่ายๆท่านจะเป็นพระสงฆ์ที่พูดน้อยมากหากใครถามท่านก็จะตอบแต่ถ้าหากใครไม่ถามฉันก็จะไม่พูด  ท่านเป็นพระภิกษุสงฆ์ที่เก่งในเรื่องของเมตตามหานิยมและการให้โชคให้ลาภการเป็นพระนักพัฒนาที่ทำให้วัดตะโกจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเจริญรุ่งเรืองและเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป

ปัจจุบันนี้ถึงแม้ว่าท่านจะมรณภาพไปแล้วแต่ชื่อเสียงของท่านก็ยังคงมีอยู่และโด่งดังมากทุกวันนี้ลูกศิษย์ลูกค้ายังคงไปเคารพกราบไหว้ท่านที่วัดตะโกอำเภอภาชีจังหวัดพระนครศรีอยุธยากันหรือเป็นประจำและวัตถุมงคลสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่แล้วท่านได้สร้างขึ้นมานั้นทุกวันนี้ถือว่ามีราคามาก

 

ขอบคุณ บา คา ร่า sagame  ที่ให้การสนับสนุน

Megalodonนั้นมันสูญพันธุ์เพราะอะไร

ทำไมMegalodonถึงไม่มีซากฟอสซิลทำไมมันไม่มีอะไรที่สมบูรณ์เหมือนกันอย่างไดโนเสาร์เหมือนกับสิ่งอื่นที่เขาได้มีการค้นพบกันสำหรับข้อมูลตรงส่วนนี้หากเราจะเอาข้อมูลที่เขานั้นได้มีการสันนิษฐานกัน

ซึ่งพวกเขาก็ได้สันนิษฐานกันว่าเจ้าMegalodonมันได้เป็นสัตว์ที่มันได้มีขนาดที่ใหญ่มากๆว่ากันว่าน้ำหนักตัวของมันนั้นมันอาจจะมากกว่าหลัก100ตันกันเลยทีเดียวและพอเจ้าMegalodonเหล่านี้ในมีการเสียชีวิตหรือมันได้ตายลงไปมันก็จะจมลงสู่ใต้ท้องทะเล

จากนั้นมันก็จะถูกย่อยสลายไปในทุกๆส่วนทุกๆสิ้นและมันก็จะมีสัตว์ตัวอื่นเข้ามากัดกินซากของเมกาโลดอนไปแต่สำหรับซากMegalodonเหล่านั้นมันจะมีอยู่บางสิ่งบางอย่างที่มันไม่อาจจะย่อยสลายได้นั่นก็คือโครงกระโครงสันหลังกับฟันนั่นเองเพราะว่าโครงกระดูกสันหลังกับฟันนี้มันเป็นโปรตีนมันเลยไม่ถูกย่อยสลายและถูกเป็นซากฟอสซิลที่ทำให้เรานั้นได้เจอกันอยู่ทั่วโลกนั่นเอง

ซึ่งฟอสซิลของเจ้าMegalodonตรงนี้นักวิทยาศาสตร์ก็ได้บอกว่าเราสามารถพบเจอฟอสซิลฟันฉลามเหล่านี้หรือโครงกระดูกสันหลังเหล่านี้ได้ตามพื้นที่ชายฝั่งของท้องทะเลที่มีความลึกไม่เกิน1-200เมตร เนื่องจากว่าMegalodonมันจะไม่อาศัยอยู่ตรงที่บริเวณน้ำลึกเพราะว่าMegalodonนั้นเป็นสัตว์ที่มันได้อาศัยอยู่บริเวณในพื้นที่น้ำอุ่น

ฉะนั้นแล้วยิ่งน้ำลึกลงไปอากาศและอุณหภูมิมันก็ยิ่งต่ำมันก็เลยจะเป็นไปไม่ได้เลยว่าที่Megalodonนั้นมันจะอาศัยอยู่บริเวณใต้น้ำลึกนั้นเองและจากการที่ได้รวบรวมซากฟอสซิลฟันMegalodonตรงนี้นั้นเขาก็ยังได้คาดการณ์กันอีกว่ากรามของMegalodonมันอาจจะมีความใหญ่ได้ถึง2เมตรและมันสามารถมีแรงกัดได้ถึง2หมื่นกิโลกรัมหรือ6-8เท่าเมื่อได้เทียบกับปลาฉลามขาวหรือจระเข้

ในยุคปัจจุบันของเรานั่นเอง ซึ่งถ้าหากจะให้พูดเข้าใจกันง่ายๆเลยคือเจ้าฉลามขาวหรือจระเข้ในยุคปัจจุบันของเรามันคือสิ่งที่มีชีวิตหรือสัตว์นักล่าที่มันได้มีแรงกัดมากที่สุดในโลกนั่นเองและมันก็ยังได้เป็นสิ่งที่มีความน่าเสียดายว่านักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่กว่า90%เขาก็ยังได้ออกมายืนยันเลยว่าเจ้าฉลามในยุคดึกดำบรรพ์หรือMegalodon

มันได้สูญพันธุ์ไปแล้วมันไม่มีทางที่จะหลงเหลืออยู่ในยุคปัจจุบันของเราอย่างแน่นอนแต่สาเหตุของการสูญพันธุ์ในครั้งนี้มันก็ยังไม่สามารถที่จะยืนยันกันได้อย่างชัดเจนได้ว่าMegalodonนั้นมันสูญพันธุ์ไปเพราะอะไร

ซึ่งตรงนี้ทุกคนอาจจะเคยดูสาระคดีหรือก็อาจจะคาดเดากันว่ามันอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงฉับพลันของอุณหภูมิน้ำที่ได้เกิดจากอุกกาบาตพุ่งชนโลกภูเขาไฟระเบิดและได้มีการเปลี่ยนแปลงกันอย่างรวดเร็วจึงทำให้Megalodonไม่สามารถที่จะมีชีวิตอยู่ได้และมีการสูญพันธุ์ในยุคไดโนเสาร์

 

สนับสนุนโดย  sagame

ข่าวดังคุณป้าโวยวายถูกเชิญออกจากห้างเพราะไม่ใส่หน้ากากอนามัย

ข่าวนี้เป็นข่าวดังที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมนี้เองโดยมีคุณป้าคนหนึ่งเธอนั้นได้ไม่ใส่หน้ากากอนามัยและได้ทำการเข้าไปในห้างแห่งหนึ่ง

เพื่อซื้อของหลังจากนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่พบเห็นเธอกำลังจะเดินเข้าไปใน Tesco Lotus โดยที่ไม่ใส่หน้ากากอนามัยคำเจ้าหน้าที่จึงสั่งให้เธอออกไปจากห้องทันทีกลับไปที่บ้านใส่หน้ากากอนามัยอีกครั้งและค่าเดินทางมาที่นี่อีกครั้งและถ้าทำอย่างนั้นทางเจ้าหน้าที่จะมีแจ้งจับตำรวจ

ซึ่งเมื่อคุณป้าคนนั้นได้ยินเธอก็โกรธเป็นอย่างมากและโวยวายรวมถึงสะกดคำหยาบมากมายหลายๆอย่างเจ้าหน้าที่นอกจากนั้นยังมีคนได้ถ่ายคลิปของเธอเอาไว้ซึ่งเธอยังบอกอีกว่าเธอนั้นเป็นหมอดำมากๆนอกจากนั้นเธอยังมาซื้อของเพื่อนำไปกักตุนไว้ที่บ้านที่ทำให้ใส่หน้ากากนั้น

เพราะเธอมีความเชื่อที่ว่าหากไม่ป่วยก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใส่หน้ากากและเธอมั่นใจว่าเธอจะไม่ติดเชื้ออย่างแน่นอนและเจ้าหน้าที่นั้นก็ได้ทำการยกพวกมาเจรจากับเธอแต่เธอพูดคำด่าคำหยาบมากมายสายเจ้าหน้าที่เสียงดัง

ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีคนถ่ายคลิปของเธอมากมายแต่ก็ยังสู้ต่อไปพร้อมกับหันหลังมานี้พวกคนที่ถ่ายคลิปบางครั้งพร้อมกับด่าด้วยคำหยาบอีกหลายคำด่าที่ไม่มีคําหยาบเลยคำเดียวก็คือหยุดถ่ายคลิปแบบนี้นี่คือประโยคเดียวที่ไม่มีคําหยาบจึงสามารถบอกได้ว่าคุณป้าคนนี้พูดคำหยาบมากมายหลายอย่างมาก

ซึ่งมีคนคนหนึ่งได้ถ่ายคลิปได้นำคลิปนี้ไปโพสต์ใน Facebook ของตนเองซึ่งเขาได้โพสต์ประมาณว่ามนุษย์ป้าคนนี้นิสัยไม่ดีเป็นอย่างมากต่อให้เป็นหมอรวมถึงแม้กระทั่งเป็นรัฐบาลก็ควรที่จะใส่หน้ากากอนามัยและทำตามกฎระเบียบ

เพราะถึงแม้ว่าจะมีคติประจำใจอย่างนั้นแต่ก็ควรที่จะทำตามกฎถ้าต้องการที่จะเข้าไปในสถานที่ต่างๆที่มีกรดเช่นนั้นดังนั้นจึงขอให้มนุษย์ป้าเหล่านี้ที่ทำตัวแบบนี้เห็นใจและเลิกทำนิสัยแบบนี้ค่ะ และเขายังได้กล่าวไว้อีกว่าใครก็ตาม

ที่ถูกเชิญออกจากห้างก็ควรที่จะไม่วุ่นวายและถ้าเกิดว่าเจ้าของหรือก็คือคนในคลิปนี้ได้ทำการอ่านข้อความและสิ่งที่เขาโพสต์ไปเขาก็เขาบอกไว้ว่าไม่ควรที่จะพูดคำหยาบเยอะขนาดนั้นและนอกจากนั้น

ยังเป็นการด่าเจ้าหน้าที่ด้วยรวมถึงแม้กระทั่งเธอไม่ใช่ของทางห้างไม่ใช่จะรักมึงมากแล้วทางของตัวเองโดนคนที่ใส่หน้ากากอนามัยกับเขาไปทั่วดังนั้นก็ดีแค่ไหนแล้วที่ทางเจ้าหน้าที่เลือกที่จะไม่แจ้งตำรวจจับเธอและเพียงแค่ชวนเธอออกจากห้างไปเท่านั้น

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  bk8

สัตว์ที่เกิดก่อนยุคดึกดำบรรพ์

สเตทาแคนธัส

ลักษณะของเจ้าปลาฉลามของใครหลายๆคนมันคงจะเป็นอสูรกายที่มันได้มีความดุดร้ายและถ้าหากว่ามันได้ว่ายน้ำเข้ามาอยู่ใกล้ตัวเราเมื่อไหร่ก็จะต้องรีบหนีกันเมื่อนั้นแต่ถ้าหากว่าเรานั้นได้ย้อนกลับเข้าไปในยุคดีโวเนียนจนถึงในยุคคาร์บอนิเฟอรัส

หรือเมื่อประมาณ300-380ล้านปีก่อนและถ้าหากตัวคุณนั้นได้ร่วงอยู่กลางมหาสมุทรแล้วล่ะก็คุณอาจจะต้องมีความแปลกใจกันอย่างแน่นอนเพราะแทนที่คุณจะต้องพบเจอกับเจ้าตัวร้ายโดนทั่วไปแต่คุณก็จะได้พบกับ

สเตทาแคนธัส ที่จริงมันก็ได้เป็นปลาฉลามอีกประเภคหนึ่งนั้นแหละเพียงแต่ว่ามันจะมีครีบหลังที่แปลกไปจากปลาตัวอื่นเพียงเท่านั้น ซึ่งนักวิจัยที่เขาได้พบเห็นซากและเขาก็ยังได้ตั้งข้อสันนิษฐานเอาว่าบางทีมันอาจจะเป็นการทำให้มันได้ว่ายน้ำได้เร็วและยังได้รวมไปถึงปลาฉลามตัวสาวๆเพราะสิ่งนี้มันได้เป็นสิ่งที่มี

โดยเฉพาะฉลามตัวผู้เท่านั้นเองถ้าหากว่าเรานั้นลลองสังเกตมันจริงๆบนครีบที่อยู่บนหัวของมันนั้นมันได้มีเกล็ดหยาบแบบเดียวกันแบบจมูกของพวกมันซึ่งเราก็พึ่งจะเคยเห็นว่าเจ้าปลาฉลามในยุคนั้นเขาได้ฮิตกันแบบนี้มันก็จะต้องเป็นแบบนั้นแหละเพราะว่าเรานั้นได้เกิดมาไม่ทัน

สคูโทซอรัส

สำหรับสคูโทซอรัสนั้นน่าตามันอาจจะไม่ค่อยให้แต่มันก็ยังไม่ใช่ไดโนเสรา์ทั้งหมดเลยทีเดียวเพราะว่าเจ้านี่มันได้เป็นสัตว์เลื้อยคานจำพวกอนันสิทธิ์ที่มันได้เกิดแลได้เติบโตในยุคเพอร์เมียนตอนปลายประมาณ254-265ล้านปีมากแล้ว

โดยนักบรรพชีวินก็ได้คาดว่ามันอาจจะมีความยาวขนาดของตัวถึงเกือบจะ2เมตรซึ่งลักษณะลำตัวของมันนั้นมีความหนาของตัวมันได้มีเกราะหนาซึ่งมันก็ได้เป็นกระดูกของมันเองที่เอาไว้ป้องกันฟันเขี้ยวของศัตรูตามธรรมชาติ

หากเห็นน่าตาโหดเรียกพี่สะขนาดนี้แต่คุณจะเชื่อหรือไม่ว่าสคูโทซอรัสมันได้เกิดมาเป็นสัตว์มังสวิรัติที่มันได้กินพืชใบไม้และหญ้าและรวมไปถึงพืชอื่นๆที่ดำรงค์ชีพได้ ซึ่งพวกมันก็ชอบอาศัยอยู่ที่ริมแม่น้ำ

เนื่องจากว่าบริเวณพื้นที่ดังกล่าวนั้นมันได้มีความอุดมสมบูรณ์อีกทั้งยังได้เป็นแหล่งฟักทองที่มีมากๆเลยนี่เองแต่ถึงอย่างไรสัตว์สคูโทซอรัสมันชอบรักสงบก็ก็ใช่ว่ามันจะสยบเหล่าพวกนักล่าได้บางทีพวกมันอยู่ดีๆก็อาจจะมีสัตว์ที่กินเนื้อ เข้ามาอยู่ใกล้ๆหากเคลื่อนไหวช้าเมื่อไรรับลองเลยว่าเสร็จสัตว์กินเนื้อได้อย่างแน่นอน

 

สนับสนุนโดย  bk8 ฟรี เครดิต

ท่องเที่ยวล่องแก่งคุคคู้ และ เรื่องราวประวัตินายพรานในอดีต

สำหรับที่ภูทอกที่เชียงคานแห่งนี้ก็ได้มีรถกะบะที่คอยอำนวยความสะดวกรับขึ้นไปยังจุดชมวิวได้และผมก็ได้มาถึงจุดภูทอกที่เชียงคานในเวลาเช้าแบบนี้เป็นช่วงเวลาที่อากาศสดชื่นมากที่สุดภูทอกในภาษอีสานมีความหมายว่า ภูเขาที่โดดเดี่ยว

ซึ่งเป็นจุดที่สามารถมองเห็นเชียงคานในมุมสูงและเห็นสายน้ำโขงที่ไหลผ่านประเทศไทยและประเทศลาวไปพร้อมกันทิวทัศน์ที่ถูกมองออกไปในวันที่เรียบง่ายถ้ามองอย่างไร้จินตนาการโดยที่ไม่ได้เห็นความสำคัญของแม่น้ำโขงที่หล่อเลี้ยงคนมาหลากหลายประเทศและหลากหลายยุคสมัย

วิวแห่งนี้ก็คงจะเป็นวิวหนึ่งที่มองเห็นความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่มนุษย์ไม่สามารถสร้างหรือลอกเลียนแบบประติมากรรมชิ้นนี้ได้คงจะเหมือนกับชีวิตของคนเราที่ไม่สามารถสร้างหรือลอกเลียนแบบชีวิตของใครได้ผมนั่งรถลงมาจากจุดชมวิวและข้าวจี่กับไก่ทอดก็เป็นอาหารรองท้องก่อนที่รถสกายแลปจะมารับผมออกเดินทางอีกครั้งเพื่อเดินทางไปยังแก่งคุคคู้สถานที่สุดเขตเมืองเลย

หรือสุดเขตแดนสยามแก่งคุคคู้แห่งนี้มีเรื่องเล่าที่อยู่คู่กับชาวบ้านที่นี่มานมนานนั่นก็คือเรื่องของนายพรานป่าจึ่งขึ่งดั้งแดงในเรื่องเล่าของนายพรานที่มีรูปร่างที่สูงใหญ่ล่ำสันและได้มีฝีมือในการล่าสัตว์วันหนึ่งนายพรานผู้นี้ตามล่าควายเงินมาจากหลวงพระบาง

พอถึงริมน้ำโขงก็เห็นควายเงินพักกินน้ำนายพรานกำลังดักซุ่มยิงแต่ชาวบ้านก็แล่นเรือผ่านมาทำให้ควายเงินจึงได้วิ่งหนีเขาได้ที่เขาลูกหนึ่งหลังจากนั้นก็ได้ทำให้นายพรานรู้สึกโกรธชาวบ้านที่แล่นเรือผ่านมาจึงกลั่นแกล้งด้วยการขนหินมาวางขวางลำน้ำโขงทำให้เรือไม่สามารถผ่านไปได้

เกือบที่นายพรานจะทำสำเร็จก็ได้มีสามเณรที่ผ่านมาและออกอุบายหลอกนายพรานให้นายพรานใช้ไม้เฮียะผ่าซีกหาบหินแทนและด้วยลักษณะที่ไม้เฮียะมีความกรอบและบางระหว่างที่นายพรานได้ใช้หาบทำให้ไม้เฮียะหักและแทงเข้าที่คอของนายพรานจนถึงแก่ชีวิตและได้นอนตายอย่างคุคคู้อยู่ที่ริมน้ำโขงแก่งหินนี้มันจึงเรียกว่า แก่งคุคุคู้

จากนั้นผมก็ได้เดินลงมาที่เรือเพื่อที่จะล่องเรือชมทิวทัศน์ริมน้ำโขงที่แก่งคุคคู้ เรื่องเล่าและประวัติความเป็นมาในทุกสถานที่มีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไปและในเรื่องเล่าล้วนมีความจริงบางประการซ่อนอยู่ในเรื่องเล่าสักหนึ่งเรื่องในการเดินทาง

คงเป็นสิ่งที่ผมได้ถือครองเอาไว้ด้วยความสุขกับชีวิตที่อยู่คู่กับการเดินทางที่ได้ขยายกรอบในเรื่องราวที่คับแคบของตัวเองให้เป็นกรอบที่กว้างขึ้นโดยที่ไม่จำเป็นจะต้องนอกกรอบ

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  bk8thai

เรื่องราวหลอนจากครูสอนรำไทย 

เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องอีกหนึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้วซึ่งทุกวันนี้ก็ยังมีโรงเรียนแถวนี้อยู่ซึ่งเป็นโรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งมีชื่อเสียงมากซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเทพฯซึ่งที่นี่นั้นหากใครที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่เมื่อมีคนไปถามเรื่องของครูนาฏศิลป์ที่มีชื่อว่าครูวิภาทุกคนจะต้องรู้จักกันอย่างแน่นอน

เพราะเรื่องรักของครูวิภานั้นคือเรื่องที่โด่งดังไปทั่วมากเป็นเรื่องของว่าครูวิภาคือคุณครูคนหนึ่งที่เป็นคนที่เข้มงวดมากนอกจากนั้นเธอยังเป็นคนที่รำสวยที่สุดในโรงเรียนเป็นคนที่รักในหน้าที่มั่นคงในหน้าที่เป็นอย่างมาก

ซึ่งเธอนั้นกำลังสอนเด็กๆ 3 คนที่กำลังจะไปแข่งรำไทยกับโรงเรียนอื่นๆซึ่งเหลืออีก 1 วันแล้วที่จะต้องแข่งกันแต่อยู่ๆคุณครูดันมีอาการป่วยหนักจนถึงกับสลบลงไปกลางห้องเรียนรำไทยทำให้เธอหรือก็คือครูวิภาจำเป็นที่จะต้องไปนอนที่โรงพยาบาลผ่านไป 1 ชั่วโมงครูวิภาก็หาทางหนีออกจากโรงพยาบาลจนได้

ซึ่งครูวิภานั้นได้อาบน้ำให้ลูกศิษย์ 3 คนมาเจอที่ห้องนาฏศิลป์แล้วก็เรียนรำกันเช้าวันต่อมาคุณครูวิภานั้นกำลังจะแอบกลับเข้าไปที่โรงพยาบาลแต่พบว่าลืมยาที่ทำพยาบาลให้ไว้อยู่ในห้องนาฏศิลป์ซึ่งตอนนั้นก็เป็นตอนกลางคืนตอนที่ลูกศิษย์กับไปหมดแล้ว

ซึ่งหลังจากนั้นครูวิภาก็ได้ทำการเข้าไปในห้องนั้นอีกครั้งแต่ไม่รู้เป็นอะไร 1 วันต่อมาทุกคนก็พบว่ามีเลือดไหลออกมาจากห้องนาฏศิลป์ห้องเดียวกันกับที่คุณครูวิภาเข้าไปครั้งสุดท้ายหลังจากนั้นเมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบกับครูวิภาที่นอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

แต่ทุกคนก็ไม่ได้สนใจอะไรจัดงานตามพิธีกรรมสวดมนต์ให้ทุกอย่างทำทุกอย่างที่ถูกต้องหลังจากนั้นไม่นานทางโรงเรียนก็ต้องการที่จะสร้างโรงเรียนขึ้นมาใหม่ให้ดูดีมากขึ้นโดยการที่ถูกต้องทุกอย่างซึ่งทางโรงเรียนกำลังจะทุบห้องนาฏศิลป์ที่คุณครูวิภาได้เสียชีวิตลง

ซึ่งทุกๆครั้งที่ช่างพยายามที่จะย้ายของเครื่องใช้และเครื่องดนตรีไทยที่อยู่ในห้องนั้นออกมาเพื่อจะทำการเตรียมทุกข์นั้นจะต้องมีเสียงดนตรีไทยมาจากไหนไม่รู้ในห้องแล้วจะมีหญิงสาวนั่นก็คือครูวิภาแต่งชุดไทยสวยมากยืนดำอยู่ในห้อง

ซึ่งนั่นทำให้ช่างหลายๆคนไม่กล้าที่จะเข้าไปที่นั่นอีกทำให้การจะทุบห้องจะสิ่งนี้อันเป็นที่จะต้องยกเลิกทางโรงเรียนจึงได้ทำการซื้อที่ใหม่และไปเปิดโรงเรียนใหม่และปล่อยให้โรงเรียนนี้ทิ้งร้างไว้เนื่องจากทุบทิ้งไม่ได้

 

สนับสนุนโดย  bk8 ดีไหม

การค้นพบซากเครื่องบินและซากของช้างแมมมอธ

การค้นพบซากเครื่องบินและซากของช้างแมมมอธโดยบังเอิญ

ซากแมมมอธ

ถึงแม้ว่าสัตว์อย่างช้างแมมมอธมันจะได้สูญพันธ์จากโลกเราไปนานแล้ว แต่พวกเรารู้หรือไม่ว่าตอนนี้เหล่ามนุษย์ได้พบเจอกับซากของพวกมันแล้ว เนื่องจากว่าได้มีการค้นพบซากของเจ้าช้างแมมมอธตัวหนึ่งที่อยู่ใต้ชั้นดิน

ที่เยือกแข็งหรือที่ไซบีเรียซึ่งในตอนที่ได้เข้าไปขุดมันก็ไม่ได้มีอะไรมากแต่หลังจากที่ได้นำเอาเจ้าซากช้างแมมมอธได้ขึ้นมาที่ด้านบนเท่านั้นแหละมันทำเอาขนลุกกันเป็นแถวและใครจะรู้เหล่าว่า สัตว์ที่มันได้มีอายุถึง39,000ปี

มันจะมีสภาพที่ดีเหมือนกับว่ามันเพิ่งจะตายไปได้เมื่อไม่นานหลังจากในการค้นพบในครั้งนั้นเหล่านักวิทยาศาสตร์ก็ได้ตั้งชื่อให้กับมันว่ายูกะและได้ทำการพิสูจน์ซากของมันอย่างละเอียดจากนั้นเมื่อได้ทำการพิสูจน์เสร็จแล้วนั้นก็ได้พบว่าเจ้าช้างตัวนี้นั้นมันได้จากไปเมื่อมันได้มีอายุประมาณ6-8ปี

จากการจมน้ำแต่ถึงอย่างไรก็ตามแล้วในการจมน้ำของเจ้าช้างตัวนี้มันยังไม่ใช่ประเด็นหลักแต่ไฮไลท์มันได้อยู่ตรงที่นักวิทยาศาสตร์เขาได้สกัดของเหลวที่มีสีแดงออกมาถึงตกร้องกันเลยทีเดียวเพราะว่ามันไม่ได้แข็งตัวไปตามสภาพอากาศที่ได้มีความหนาวเย็นมันจึงทำให้ได้รู้ว่าระบบไหลเวียนของเหลว

ที่อยู่ในตัวของแมมมอธมันได้ต้านในการแข็งตัวได้เป็นอย่างดีนอกจากนี้ก็ยังได้มีการสักเซลล์ของเหลวออกมาโดยพวกเขาได้มีความหวังว่าเทคโนโลยีในอนาคตจะสามารถทำให้พวกมันได้ฟื้นคือชีพขึ้นมาอีกครั้ง

ชิ้นส่วนที่ได้หายไปของเครื่องบินของทหารสหรัฐ

ไม่รู้จะเรียกว่าโชคดีหรือไม่ที่ธารของน้ำแข็งนั้นมันได้ละสายตัวมันเลยทำให้พวกเขาได้พบกับเศสซากของเครื่องบินหลวงของสหรัฐรุ่น4513ด้วยความบังเอิญหลังจากที่ได้ทำการกู้กันอยู่พักใหญ่ก็จะต้องทำให้ลูกตาลุกว้าว

เนื่องจากสิ่งที่ได้พบนั้นมันเป็นซากของเครื่องบินที่ได้ของลงจอดแบบฉุกเฉินในปี1946 และนั่นมันก็หมายความว่ามันได้สูญหายไปนานกว่า70ปีแล้วโดยในวันที่19พฤศจิกายน ปี1946เครื่องบินลำนี้ก็ได้บินไปที่ฝรั่งเศสแต่บินไปสักพักเครื่องบินก็ได้พบเจอกับหมอกหนาและสภาพของอากาศที่เลวร้าย

จนเกินไปมันจึงได้ทำให้นักบินบังคับถึงต้องขอลงจอดโดยด่วนถึงแม้ว่าทุกๆคนนั้นจะปลอดภัยดีแต่เครื่องบินลำดังกล่าวนั้นมันได้มีความเสียหาย ซึ่งในขณะนั้นที่ทุกคนนั้นได้เผชิญกับเหตุการณ์ดังกล่าวพวกเขาต่างก็ได้หาทางเอาตัวรอดและได้ทิ่งเครื่องบินนั้นให้มันจมอยู่ที่ใต้น้ำแข็งอย่างหน้าเสียดายแม้จะถูกพบแล้วใช่ว่าจะเจอครบทุกๆส่วนและก็ยังได้มีการกู้ซากเครื่องบินลำดังกล่าวอยู่จนถึงในปัจจุบัน

 

สนับสนุนโดย  bk8 slot

สัตว์ในความเชื่อของมนุษย์โลก?

สำหรับมนุษย์ทั่วโลกนั้นต่างก็มีความเชื่อที่มีอยู่เหนือกว่าความเชื่อของศาสนาและสิ่งเหล่านั้นมันก็ได้เป็นความเชื่อในเรื่องของโชครางและมันก็ยังได้เป็นสิ่งที่น่าสนใจว่าในทุกๆมุมของโลกนั้น

ก็ได้มีความเชื่อในส่วนเรื่องโชครางและก็ได้มีลางบอกเหตุที่มันได้มีความสัมผัสเกี่ยวข้องกับสัตว์ต่างๆที่มันจะบอกได้ทั้งรางดีและก็ลางร้ายวันนี้  ทางเข้าbk8  ของเราจะมาดูกันว่าสัตว์ที่มันได้มีความเกี่ยวข้องกับรางบอกเหตุในความเชื่อของคนในทุกๆมุมโลกเกี่ยวกับสิ่งที่คนเรานั้นไม่เคยรับรู้มาก่อน

แมวดำสำหรับแมวดำนั้นซึ่งคนเราต่างก็ได้มีความเชื่อที่มีความเกี่ยวข้องกับความศักดิ์สิทธิ์อีกทั้งยังได้มีการนำเอาแมวดำมาบูชาที่ได้มีร่างกายเป็นนางสิงที่มันได้มีความเกี่ยวข้องกับแมวบ้านที่ได้มีคนเชื่อกันว่ามันได้เป็นตัวแทนของพลังและยังได้รวมไปถึงการปกป้องกันอันตราย

และยังได้มีความสงบงามที่มันจะเป็นมงคลกับใครที่ได้เป็นผู้ดูแลเจ้าแมวตัวนั้นเป็นอย่างดีซึ่งในความเชื่อเหล่านี้มันก็ได้เชื่อกันมาอยู่หลายปี ทั้งนี้ในความเชื่อของคนในประเทศไทย ต่างก็ได้เชื่อกันว่าเจ้าแมวดำนั้นมันได้เป็นแมวดำโชคร้ายที่มันคอยบอกเหตุอย่างเช่นหากใครที่กำลังเดินทางอยู่และจู่ๆก็มีแมวดำมาตัดอยู่หน้ารถของเรา

ก็จะต้องหยุดและก็ไม่ควรที่จะเดินทางต่อหากใครที่เจอกับเจ้าแมวดำตัดหน้ารถแบบนี้และไม่หยุดการเดินทางแล้วมันก็อาจจะทำให้ตัวของเรานั้นเกิดความอันตรายก็ได้แต่สำหรับในส่วนเรื่องของแมวดำในประเทศไทยนั้น

มันก็ไม่ได้มีความอันตรายแต่อย่างใดเพราะว่ามันได้มีแมวที่ได้มีชื่อเรียกว่าแมวโกนจาที่มันได้มีรูปร่างลักษณะเป็นแมวปลอดไปทั้งตัวที่ได้มีขนสั้นที่มีขนาดเล็กและมีความนุ่มและอีกทั้งมันก็ยังมีลูกตาข้างในที่เป็นสีเหลืองที่ผสมสีทองอ่อนทั้งนี้มันก็ยังได้เป็นแมวที่มีคนรู้จักพวกมันในชื่อเจ้าแมวบอมเบย์หรือบางคนก็ได้บอกว่ามันได้เป็นแมวที่ได้เป็นคุณแก่ผู้ที่ได้นำเอามาเลี้ยง

และมันก็ยังได้ผิดกับความเชื่อทางด้านของตะวันตกที่ได้กล่าวเอาไว้ว่าเจ้าแมวดำนั้นมันได้เป็นสัตว์เลี้ยงของเหล่าบรรดาแม่มดซึ่งหลายคนก็อาจจะรู้ดีกันอยู่แล้วว่าเจ้าแม่มดนั้นมีความโหดร้ายมากแค่ไหนและก็ยังได้เป็นปีศาจแม่มดที่ใครๆต่างก็พากันหวาดกลัวไปทั้งหมดอีกด้วย