การศึกษาประวัติศาสตร์เพื่อปัจจุบันและก็อนาคต 

สำหรับการพัฒนา ทางด้านของเศรษฐกิจแบบระบบทุนนิยมอุตสาหกรรมที่เป็นการเน้นย้ำในการแข่งขันและการหารายได้ ทำให้คนส่วนใหญ่มุ่งหน้าศึกษาเล่าเรียน ไปทางด้านเทคโนโลยี

และวิทยาศาสตร์ และการจัดการอีกด้วย จนกระทั่งลืมไปเลยว่ามีความสำคัญ ของทางด้านวิชาศิลปศาสตร์และมนุษยศาสตร์ นอกจากนั้นยังมีสังคมศาสตร์และประวัติศาสตร์อีกด้วย 

บรรดาอาจารย์ที่ทำการสอนประวัติศาสตร์โดยมาก จะทำให้ประวัติศาสตร์เปลี่ยนเป็นเรื่องของตำนาน เรื่องเก่าแก่ และนอกจากนั้นยังมีศักราชต่างๆ ที่มองไกลห่างและก็น่าเบื่อ ซึ่งส่งผลทำให้นักศึกษามีทัศนะที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ ต่อประวัติศาสตร์ ยกตัวอย่างเช่นนักศึกษาจะมองว่าการเรียนประวัติศาสตร์เหล่านี้เป็นการศึกษาเฉพาะเรื่องราว ในสมัยก่อนอยู่ในสมัยโบราณ โดยไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของในชีวิตจริงหรือการใช้ชีวิตในปัจจุบัน 

ประวัติศาสตร์เป็นการเรียนถึงเรื่อง ความเกี่ยวข้องรวมไปถึงกิจกรรม ของบรรดาคนทุกคนในสังคม โดยจะเน้นย้ำไปทางวิวัฒนาการของการพัฒนา และก็ความเคลื่อนไหวทางด้านของสังคม ในช่วงเวลาที่แตกต่างกันออกไป ตั้งแต่อดีตกาลที่เป็นร้อยเป็นพันปีมาแล้ว ซึ่งจะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเป็นเดือนหรือจะเป็นปีก็ตาม ตลอดจนถึงปัจจุบันนี้ โดยมีลักษณะเคลื่อนไหวอยู่ตลอด กับเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า

ถ้าหากพวกเรารู้เรื่องประวัติศาสตร์ทางด้านนี้แล้ว พวกเราก็อาจที่จะเข้าใจได้ว่า ประวัติศาสตร์นั้นมีความคล้ายคลึง รวมทั้งความผูกพัน อยู่กับแขนงวิชาด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ยกตัวอย่างเช่นวิชารัฐศาสตร์ วิชาสังคมวิทยา วิชามนุษย์วิทยา และวิชาเศรษฐศาสตร์และอื่นๆอีกมากมาย

สำหรับพวกเราแล้วได้ทำการศึกษาเล่าเรียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ก็เพื่อเป็นการทำให้พวกเรานั้น เข้าใจเกี่ยวกับคนในสมัยโบราณ หรือคนแต่ละยุคแต่ละสมัย มีการดำรงชีวิตอย่างไร มีการเชื่อมโยงอย่างไรกันบ้าง นอกจากนั้นยังมีการประดิษฐ์มีอายุอยากทำต่างๆอีกมากมายนานับประการ 

สิ่งพวกนั้นสื่อความหมายอย่างไร ต่อความก้าวหน้าของสังคมเรา ในช่วงเวลานั้นแล้วมันมีผลกระทบอะไรบ้างที่เชื่อมโยงมาถึงปัจจุบันนี้ของเรา สำหรับการศึกษาเล่าเรียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในลักษณะของการวิเคราะห์สังคมจะเป็นการช่วยในเรื่องให้พวกเรารับรู้ถึงปัญหาที่แท้จริงเกี่ยวกับความด้อยพัฒนาของประเทศ

โดยต่อเนื่องยาวนานมาไกลมาจากลัทธิจักรวรรดินิยม ศักดินานิยมแล้วก็กระบวการแนวทางในการปรับปรุงที่ไม่สม่ำเสมอแสดงให้เห็นถึงความลำเอียงในสังคมต่างๆก่อนหน้าที่ผ่านมาเหล่านี้ แนวทางในการปรับปรุงของแต่ละสังคมที่ไม่มีการเสมอภาคเหล่านี้มิได้มีต้นเหตุที่เกิดมาจากการที่สังคมบางพื้นที่พัฒนาได้ไปต่อที่ช้ากว่าด้วย

ต้นเหตุก็คงเพราะว่ามีความรู้หรือมีสิ่งที่จำเป็นต่อความต้องการน้อยดังนั้นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้การพัฒนาไม่ได้ดีอย่างที่เราคาดเอาไว้ 

 

สนับสนุนโดย.  Joker ฝากถอน true wallet

จุดเปลี่ยนของงานศิลปะ 

ศิลปะมีการเปลี่ยนได้มีการพัฒนาอยู่เสมอในรูปแบบต่างๆหรือแม้แต่จะเป็นแนวคิดต่างๆ อย่างไรก็ตามนี้จึงเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ผู้คนในยุคปัจจุบันมีความต้องการในการพัฒนาโครงสร้างการรับรู้เรื่องราวต่างๆหรือแม้แต่จะเน้นการพัฒนารูปแบบต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดอย่างไร

ก็ตามนี้จึงเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ผู้คนในยุคปัจจุบันมีการเรียนรู้และการพัฒนาโครงสร้างความเข้าใจในส่วนงานต่างๆหรือแม้แต่จะเป็นแนวคิดที่มีประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในการทำงาน

หรือจุดเปลี่ยนของงานศิลปะต่างๆมาถึงจุดที่มีการเติบโตที่มากที่สุดโดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศหรืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้มีการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพหรือประสิทธิภาพในการทำงานอย่างดีมากที่สุด

จุดเสี่ยงต่างๆเหล่านี้ทำให้การเติบโตของรูปแบบในการพัฒนางานศิลปะในส่วนของงานต่างๆมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องผู้คนส่วนใหญ่ในยุคปัจจุบันสามารถเข้าถึงงานศิลปะได้ง่ายขึ้นหรือแม้แต่จะเป็นศิลปินในยุคปัจจุบันสามารถนำเสนอผลงานต่างๆมากมายสถานที่ในการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับงานศิลปะต่างๆในยุคปัจจุบันก็ค่อยๆเปิดกว้าง ไม่ว่าจะเป็น Social Media

ระบบอินเตอร์เน็ตต่างๆหรือแม้จะเป็นแนวคิดต่างๆในยุคปัจจุบันมีการพัฒนาค่อนข้างเดียวศิลปินต่างๆในยุคปัจจุบันก็มีบล็อกเป็นของตัวเองไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์หรือว่าจะเป็นในส่วนขอ Facebook Instagram Twitter IG

ซึ่งตอนนี้สามารถพบเห็นได้ว่าในยุคปัจจุบันเป็นช่องทางที่นำเสนอโครงสร้างในการทำงานหรือไม่เช่นการแปรเปลี่ยนรูปแบบในการทํางานที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นของผู้คนในยุคปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาสินค้าต่างๆมีการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

ในยุคปัจจุบันเราจะได้เห็นว่ารูปแบบงานศิลปะต่างๆได้พาเราไปสู่โครงสร้างของสังคมต่างๆหรือแม้แต่จะเป็นแนวคิดต่างๆที่มีการแปรเปลี่ยนอยู่เสมออย่างไรก็ตามรูปแบบในการนำเสนอผลงานต่างๆจึงเป็นจุดที่สำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ในยุคปัจจุบันมีการพัฒนางานศิลปะในรูปแบบต่างๆ

ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา บทบาทที่สำคัญของงานศิลปะคือการจดบันทึกช่วงเวลานั้นแต่อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปช่วงเวลานั้นได้มีการแปรเปลี่ยนหรือพัฒนาปรับรูปแบบต่างๆเหล่านั้นก็จะถูกหยิบยกขึ้น

มาในรูปแบบที่ค่อนข้างแตกต่างกันนี่จึงเป็นบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่โครงสร้างการทำงานหรือการใช้ชีวิตของผู้คนมีการเรียนรู้เพื่อพัฒนาอยู่ตลอดเวลาเป็นการนำเสนอความรู้ใหม่ๆหรือแนวคิดใหม่ๆ การเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆจึงมีส่วนที่สำคัญอย่างยิ่ง

โดยเฉพาะในปัจจุบันที่งานต่างๆในการรับรู้เหตุการณ์หรือเรื่องราวต่างๆทางความคิดมีการพัฒนาและมีการปรับเปลี่ยนอยู่เสมอให้เหมาะสมกับการทำงานและการใช้ชีวิต มาถึงจุดที่การศึกษาต่างๆมีการพัฒนาและมีการปรับเปลี่ยนที่เพิ่มมากขึ้น

มนุษย์มีการเรียนรู้ถึงเรื่องราวต่างๆในประวัติศาสตร์นำมาพัฒนาคุณภาพชีวิตหรือแม้จะเป็นการสร้างสรรค์สังคมที่ต้องการผ่านรูปแบบหรือความเชื่อต่างๆที่ใช้ศิลปะเป็นสื่อกลางในการนำเสนอ 

 

สนับสนุนโดย.    กริลแอร์

การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของงานศิลปะในยุคปัจจุบัน 

ถ้าพูดว่าในยุคนี้เป็นยุคที่ศิลปะมีการเติบโตและมีการฟื้นฟูค่อนข้างมากก็คงไม่ผิดเพราะในยุคปัจจุบันเราสามารถพบเห็นงานศิลปะต่างๆหรือแม้จะเป็นโครงสร้างการทำงานต่างๆที่มีประสิทธิภาพอยู่ตลอดเวลา

การเปลี่ยนแปลงรูปแบบในการติดต่อสื่อสารหรือแม้จะเป็นโครงสร้างของการทำงานต่างๆในยุคปัจจุบันส่งผลให้การเรียนรู้รูปแบบในการติดต่อสื่อสารหรือแม้จะเป็นโครงสร้างการพัฒนาการทำงานมีการพัฒนาและมีการเปลี่ยนแปลงส่งผลให้การเรียนรู้โครงสร้างหรือรูปแบบในการใช้งานของกิจกรรมต่างๆ

ในยุคปัจจุบันที่มีการพัฒนาที่เพิ่มมากขึ้น การเติบโตอย่างก้าวกระโดดไม่ว่าจะเป็นการศึกษาประวัติศาสตร์เกี่ยวกับงานศิลปะต่างๆในยุคปัจจุบันที่มีการเติบโตที่มากที่สุดก็คือการผลิตเครื่องไม้เครื่องมือหรือแม้แต่จะเป็น Social Media

ที่ในปัจจุบันมีการเติบโตที่เพิ่มมากขึ้นการใช้ Social Media ในการพัฒนาโครงสร้างหรือการเติบโตของกิจกรรมต่างๆทำให้สามารถกิจกรรมต่างๆเหล่านั้นค้นหาบุคคลที่มีความต้องการหรือแม้แต่จะเป็นความชื่นชอบใกล้เคียงกับผลงานของตัวเอง

ในการนำเสนอผลงานลักษณะนี้จึงมีการเติบโตและมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการทำงานต่างๆเหล่านี้มีบทบาทอย่างมากในการทำงานของผู้คน โดยเฉพาะจิตรกรในยุคสมัยใหม่ที่ใช้เครื่องไม้เครื่องมือในการพัฒนาโครงสร้างในการทำงาน เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการพัฒนางานต่างๆช่วยให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีต่างๆเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตามในยุคปัจจุบันต้องยอมรับว่ารูปแบบในการทำงานมีการเปลี่ยนแปลงและมีการส่งต่อถึงเรื่องราวต่างๆอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยใดก็ตามก็จะมีผู้คนที่ทำงานในแต่ละโครงสร้างต่างๆที่แตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ รูปแบบในการทำงานต่างๆยกตัวอย่างเช่นในยุคปัจจุบันที่เราสามารถพบเห็นกิจการต่างๆ

ป็นการเปิด Social Media ตัวเองไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือว่าจะมีในส่วนของ Instagram ที่ได้รับความนิยมในการลงภาพเสียงหรือเนื้อหาต่างๆที่มากยิ่งขึ้นจึงทำให้ผู้คนส่วนใหญ่หรือจิตรกรส่วนใหญ่ในยุคปัจจุบันค้นหาผู้คนที่ชื่นชอบงานของตัวเองได้อยู่เสมอ

อนาคตอาจจะมีรูปแบบในการทำงานหรือแม้จะเป็นโครงสร้างในการทํางานของอุปกรณ์ต่างๆที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือมีการพัฒนาที่เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่การเรียนรู้รูปแบบในการทำงานต่างๆเริ่มมีการพัฒนาและมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอจึงทำให้มีการเรียนรู้เพื่อพัฒนาโครงสร้างในการทำงานต่างๆ

โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่การเรียนรู้การทำงานต่างๆมีการพัฒนาและมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคตก็จะมีการพัฒนาโครงสร้างในการทำงานใหม่ๆ

หรือแม้จะเป็นลักษณะการทำงานใหม่ๆเพราะในยุคปัจจุบัน การทำงานศิลปะในการเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับศิลปะถือว่าทุกคนสามารถเข้าถึงง่ายมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะผู้คนที่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้หรือแม้แต่จะเป็นอินเทอร์เน็ตที่มีการเติบโตในทุกๆประเทศในยุคปัจจุบัน 

 

สนับสนุนโดย.  huaydee

นั่งห้างกลางป่าสุดหลอน

สัตว์ป่าได้มีอยู่หลากหลายเผ่าพันธุ์ที่ดำรงอยู่ในธรรมชาติสัตว์บางชนิดก็เป็นสัตว์ที่หายากและยังได้มีการดำรงเผ่าพันธุ์ลดน้อยลงไปกันทุกทีแต่สิ่งที่มีชีวิตไม่ว่าจะเป็นคนหรือว่าสัตว์ล้วนจะมีวัฏจักรของชีวิตเวียนไหว้ตายเกิดเป็นธรรมชาติ

เมื่อในป่ามีผู้ล่ามันก็จะต้องมีผู้ถูกล่าเป็นเรื่องธรรมดาเพราะทุกชีวิตจะต้องมีการหาวิธีในการเอาตัวรอดด้วยเหมือนกันหากจะพูดถึงมนุษย์เราก็มีมากมายหลากหลายอาชีพที่ต่างคนก็มีความถนัดและความชำนาญที่แตกต่างกันออกไปทำให้อาชีพที่คนใช้ดำรงชีวิตย่อมมากไม่ว่าจะเป็นหาของป่าค้าขายทำสวนทำไร่ทำนาเราเองก็ไม่สามารถไปดูถูกในอาชีพของผู้อื่นได้

ซึ่งถ้าหากจะพูดถึงชีวิตของนายพรานนายพรานนี้เป็นอาชีพในการออกหาล่าสัตว์ป่าบางคนอาจจะมองว่ามันเป็นอาชีพที่โหดร้ายและได้เป็นการเบียดเบียนชีวิตของสัตว์ในป่าแต่ถ้าหากจะพูดในมุมมองของนายพรานการที่คนเราจะเข้ามาประกอบอาชีพเป็นนายพรานได้นั้นมมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครต่อใครจะมาเป็นกันได้

โดยลักษณะของการเป็นนายพรานถือเป็นอาชีพที่เป็นความเสี่ยงต่อชีวิตเช่นกันการที่เข้าไปในป่านั้นจะต้องพบเจอกับสัตว์ป่าที่อันตรายนั่นก็หมายถึงการเอาชีวิตของเราเข้าไปเสี่ยงด้วยเช่นกันการเป็นนายพรานจะต้องหมั่นฝึกฝนทักษะของตัวเองอยู่เสมอเพื่อความไม่มาทในการเข้าป่าในทุกๆครั้งจะต้องฝึกทักษะของตัวเองไม่ว่าจะเป็นการดูรอยเท้าของสัตว์ป่าการฟังความเคลื่อนไหวของสัตว์ป่าหรือแม้กระทั่งการฝึกยิงปืนอยู่สม่ำเสมอ

นอกจากนี้ในการเป็นนายพรานก็จะต้องใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทในทุกๆครั้งที่เข้าป่าโดยเรื่องราวภายในป่านั้นมันจะมีเรื่องราวที่แปลกใหม่ขึ้นอยู่เสมอรวมไปถึงเรื่องราวลี้ลับที่เราต่างก็ไม่เคยพบเจอนายพรานเมื่อจะเข้าป่าเพื่อล่าสัตว์ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็กหรือสัตว์ใหญ่ต่างก็ดักยิงสัตว์เหล่านั้นเพื่อดำรงชีวิตของพวกเขาเอง

ถ้าหากว่าได้เข้าป่าไปแล้วโชคดีก็จะได้สัตว์ป่าที่หายากแต่ถ้าหากว่าในบางครั้งที่โชคไม่เข้าข้างแล้วละก็นายพรานก็สามารถกลับมาด้วยมือเปล่า

โดยที่นายพรานนั้นไม่มีสัตว์ติดไม้ติดมือกลับบ้านมาเลยการล่าสัตว์ของพวกนายพรานนายพรานบางคนก็เข้าป่าล่าสัตว์โดยที่ไม่ไหวเรื่องของเงินทองเขาหวังเพื่อแค่ล่าสัตว์เพียงแค่ให้ดำรงชีวิตอยู่รอดได้ก็แค่นั้นเองเขาไม่ต้องการอะไรแต่อย่างใดแม้แต่เงินทอง

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย.    เว็บพนันต่างประเทศ ถูกกฎหมาย

ตำนานหมู่บ้านหนองมน

       สำหรับหมู่บ้านหนองมนนั้นเป็นหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่ในเขตพื้นที่ของจังหวัดชลบุรีซึ่งมีตำนานเล่าขานถึงที่มาที่ไปของชื่อหมู่บ้านผมรู้ว่าในสมัยโบราณนั้นคาดว่าจะมีอายุมากกว่า 100 ปีขึ้นไป

ในช่วงเวลาดังกล่าวที่หมู่บ้านแห่งนี้มีคนอยู่อาศัยกันเป็นจำนวนมากแต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่มีโรคระบาดเกิดขึ้นชาวบ้านต่างก็พากันบาดเจ็บล้มตายเพราะไม่มีหมอมารักษาเนื่องจากสมัยโบราณนั้นการหาหมอรักษานั้นค่อนข้างหายาก

และยิ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลจากความเจริญยิ่งไม่มีหมอเดินทางเข้ามารักษาทำให้คนในหมู่บ้านต่างก็พากันบาดเจ็บล้มตายอยู่มาวันหนึ่งได้มีพระสงฆ์รูปหนึ่งได้มาปักกลดธุดงค์อยู่ตรงบริเวณใกล้ๆกับหมู่บ้านดังกล่าว

ซึ่งตรงบริเวณที่พระธุดงค์ปักกลดนั้นมีหนองน้ำอยู่เมื่อชาวบ้านรู้ว่ามีพระธุดงค์มาปักกลดก็เดินทางมาทำบุญนำอาหารมาถวายรวมถึงมาขอร้องให้กับพระสงฆ์นั้นให้ช่วยเหลือปัดเป่าโรคภัยออกจากคนในหมู่บ้านด้วยพระสงฆ์องค์นี้นั้นมีเน็ตอัปเดต

และมีคาถาและเป็นพระสงฆ์ที่มีเมตตาธรรมจึงได้มีการเสกน้ำมนต์ขึ้นมาแล้วให้ชาวบ้านนั้นเอาไปดื่มกินเพื่อขจัดโรคภัยไข้เจ็บเมื่อชาวบ้านนำไปกินก็สามารถรักษาอาการป่วยได้เรื่องราวดังกล่าวจะมีการเผยแพร่ออกไปชาวบ้านต่างก็พากันมารวมตัวขอน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากพระสงฆ์องค์

ดังกล่าวซึ่งจำนวนชาวบ้านที่เดินทางมาขอรับน้ำมนต์นั้นมีค่อนข้างมากทำให้พระสงฆ์นั้นทำน้ำมนต์เพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยแทบไม่ไหวจนในที่สุดชาวบ้านต่างก็พากันขุดบ่อน้ำตรงที่ผสมอยู่เพื่อขยายพื้นที่และให้พระสงฆ์นั้น

บริกรรมคาถาลงในบ่อน้ำดังกล่าว ทีเดียวแล้วชาวบ้านจะได้ตักไปดื่มกินซึ่งพระสงฆ์องค์นั้นก็ได้มีการทำน้ำมนต์ลงในหนองน้ำแห่งนั้นและเมื่อชาวบ้านต่างพากันไปปักเพื่อนกินก็สามารถขจัดโรคภัยไข้เจ็บได้จนในที่สุดก็สามารถรักษาโรคให้หายขาดได้ทั้งหมู่บ้านซึ่งหลังจากที่ชาวบ้านหายจากโรคภัยไข้เจ็บแล้ว

เพราะที่ลงดังกล่าวก็ได้เดินทางไปยังที่อื่นเพราะชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณนั้นก็พากันย้ายที่อยู่อาศัยตรงบริเวณที่มีหนองน้ำที่พระสงฆ์เคยทำเป็นน้ำมนต์เอาไว้และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็มีการตั้งชื่อหมู่บ้านดังกล่าวว่าหมู่บ้านน้องน้ำมนต์

โดยหวังว่าจะเป็นการแสดงความเคารพนับถือไปถึงพระภิกษุสงฆ์องค์นั้นที่ได้มีการช่วยเหลือชาวบ้านเอาไว้และพอเวลาผ่านไปเนิ่นนานจากหมู่บ้านหนองน้ำมนต์ก็กลายเป็นหมู่บ้านหนองมนนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาซึ่งทุกวันนี้หมู่บ้านหนองมน ยังคงมีอยู่มาจนถึงปัจจุบัน และชาวบ้านต่างก็เล่าตำนานนี้ให้กับลูกหลานได้ฟังสืบต่อกันมา

 

สนับสนุนโดย.    สูตรหวยยี่กี

ตำนานเขาคิชกุฎ

สำหรับข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเรื่องของเขาคิชกุฎตรงนี้ถ้าเอาตามที่ได้บันทึกเอาไว้นั่นก็คือเขาคิชกุฎตรงนี้เป็นภูเขาที่มีอยู่ในอำเภอมะขามจังหวัดจันทบุรี โดยสถานที่แห่งนี้มีตำนานเกี่ยวกับเรื่องของ รอยพระพุทธบาท อยู่

ซึ่งพอได้มีเรื่องราวตรงนี้เกิดขึ้นก็เลยทำให้สถานที่ตรงนี้กลายเป็นสถานที่ที่คนเข้ามากราบไหว้บูชาสักการะกันอยู่ตลอดเวลาใช้คำว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เลยก็ว่าได้ตรงนี้หลายคนก็คงจะสงสัยว่าและรอยพระพุทธบาทที่เราได้พูดถึงตรงนี้มันคืออะไรกันแน่

ดังนั้นถ้าหากเอาตามข้อมูลที่เราไปหาข้อมูลมาได้และตามข้อมูลที่เราได้เข้าใจในเบื้องต้นรอยพระพุทธบาทก็คือรอยของพระพุทธเจ้าที่ท่านได้เดินผ่านไปตามเมืองต่างๆและได้ไปเผยแผ่หลักธรรมคำสั่งสอนให้กับหลายๆเมืองและหลังจากนั้นชาวบ้านเขาก็อยากจะสร้างสิ่งประดิษฐานให้เป็นสิ่งลำลึกถึงการมาของพระพุทธเจ้าเอาไว้

นอกจากนี้ในเวลานั้นเองทางชาวบ้านเขาก็ได้คิดอีกอย่างหนึ่งขึ้นมาว่าพระพุทธเจ้าเป็นถึงศาสดาที่ใหญ่ที่สุดของศาสนาพุทธเขาไม่อาจร้วงเกินที่จะสร้างรูปปั้นขึ้นมาหรือสร้างอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นสิ่งแทนของพระพุทธเจ้าได้รวมไปถึงหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ท่านได้บอกเอาไว้ว่าจงอย่าได้ยึดติดกับวัตถุให้จำหลักคำสั่งสอนและนำเอาไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันจะดีที่สุด

เพราะฉะนั้นแล้วเลยได้ทำให้ชาวบ้านเขาเลยไม่ได้สร้างสิ่งประดิษฐานหรืออะไรก็แล้วแต่เอาไว้เลยแต่มันก็ได้มีชาวบ้านบางกลุ่มที่เขาอยากจะสร้างได้ไปตรวจสอบพื้นที่บริเวณดังกล่าวที่พระพุทธเจ้าเคยได้ไปเผยแผ่หลักธรรมคำสอนเอาไว้และได้พบรอยเท้าของพระพุทธเจ้าอยู่ตรงนั้นเขาเลยได้เก็บรักษาพื้นที่บริเวณนั้นเอาไว้เป็นอย่างดี

เมื่อเวลามันได้เลยผ่านไปดินมันก็เริ่มแข็งตัวและบางทีมันก็เกิดการทบทมกลายเป็นหินกลายเป็นสิ่งต่างๆขึ้นมาและหลังจากนั้นพื้นที่ตรงนั้นก็กลายเป็นร่องรอยพระพุทธบาทที่เราจะได้เห็นกันทุกวันนี้นั่นเองและนี่ก็เป้นข้อมูลเบื้องตต้นที่เกี่ยวกับที่มาของเขาคิชกุฎและร่องรอยพระพุทธบาทนั่นเอง

เนื่องจากนี้หลายคนก็อาจจะสงสัยว่าเรื่องนี้มันก็เหมือนประวัติทั่วไปไม่ใช่เหรอคือเราอยากจะบอกว่าสิ่งที่เราได้กล่าวไปข้างต้นมันเป็นเพียงแค่ประวัติเบื้องต้นเท่านั้นความหลอนความน่ากลัวและอาถรรพ์ต่างๆถ้าเอาตามข้อมูลที่เราได้ไปตามหามาได้มันจะเป็นเพียงข้อมูลกลุ่มใหญ่เพียงกลุ่มเดียวที่ไม่สามารถจำแนกแยกข้อมันออกมาได้แลยแต่ละข้อและเหตุการณ์มันก็มีมากมายที่เราเองก็ยังไม่เคยได้พบเจอขึ้นอยู่กับอาถรรพ์และความน่ากลัว

 

สนับสนุนโดย.    เว็บพนันบอล ฝากขั้น ต่ำ 100 โบนัส 100

ประวัติของหนุมาน 

      หากเอ่ยชื่อคำว่า หนุมานขึ้นมา เชื่อว่าหลายคนย่อมรู้จักกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ชื่นชอบวรรณกรรมไทย ในเรื่องรามเกียรติ์ เพราะภายในเนื้อหาของวรรณกรรมเรื่องนี้ จะมีตัวละครเอกที่ชื่อว่า หนุมานอยู่ในวรรณกรรมเรื่องนี้ด้วยนั่นเอง   สำหรับลักษณะท่าท่างของหนุมานนั้น ตามลักษณะการบรรยายเอาไว้ในวรรณกรรมระบุว่า

            เขามีลักษณะรูปร่างคล้ายลิง  และแน่นอนว่าเขาไม่ใช่เพียงแค่ลิงธรรมดาเท่านั้น  ใบหน้าของหนุมานนั้นมีลักษณะเหมือนกับยักษ์ อีกทั้งร่างกายยังสูงใหญ่ และที่โดดเด่นเป็นอย่างมากก็คือ ไม่มีใครที่จะสามารถฆ่าหนุมานให้ตายได้  ไม่ใช่ว่าเขาได้รับพรจากเทพองค์ไหน แต่ที่เขาไม่ตายนั่นก็เพราะว่า หนุมานนั้นมีพ่อเป็นพระพาย

            และทุกครั้งงที่เขาถูกฆ่าให้ตาย เพียงแค่มีลมพัดผ่านร่างกายของเขาก็ทำให้เขาฟื้นขึ้นมาได้ในทันที   เรียกได้ว่าแม้จะตายกี่ครั้งเขาก็จะฟื้นคืนชีพได้นั่นเอง ส่วนทางด้านแม่ของเขานั้น ชื่อว่านางสวาหะ 

       ในเรื่องรามเกียรติ์นั้น หนุมานจะมีอิทธิฤทธิ์มาก เขาสามารถยืดตัวให้สูงใหญ่ได้ นอกจากหนุมานจะเก่งกาจสามารถแล้วเขายังมีหน้าตาที่หล่อเหลามากมากอีกด้วย ดังนั้น หนุมานเป็นลิงเผือกที่มีเมียเยอะมาก และเขาเองก็เจ้าชู้มากเช่นเดียวกัน  ตัวอย่างบรรดาเมียเมียของหนุมาน เช่น นางเบญกาย

  ซึ่งพวกเขามีลูกด้วยกันหนึ่งคน ที่มีชื่อว่า อสุรผัด  สำหรับนางเบญกายนั้น เจอกันหนุมานได้เพราะว่านางอยากจะให้พระรามเสียใจที่นางสีดาตาย จึงได้แปลงกายเป็นนางสีดาตายลอยตามน้ำมา 

             แต่พระรามก็จับได้ ทำให้พระรามสั่งให้หนุมานไปส่งนางกลับเมืองของตัวเอง ระหว่างทางกลับเมืองก็เกิดได้เสียกับหนุมาน  ส่วนเมียอีกคนที่เด่นๆ นั่นก็คือ นางสุพรรณมัจฉา  กับเมียคนนี้ก็มีลูกด้วยกัน หนึ่งคนเช่นเดียวกัน ชื่อว่า มัจฉานุ  รูปร่างของมัจฉานุนั้นเป็นเอกลักษณ์มากมากเพราะได้  หน้าตาและรูปร่างของพ่อมา จึงได้มีรูปร่างเหมือนลิง และมีสีขาวเผือกเหมือนกับพ่อ แต่กลับมีหางเหมือนแม่ เพราะหางจะมีลักษณะเหมือนหางปลานั่นเอง

         สำหรับตัวของหนุมานนั้นเขาเป็นทหารเอกคนสนิทของพระราม คอยช่วยเหลือพระรามทุกเรื่อง และทุกครั้งที่ทำงานสำเรร็จเขาก็มักจะได้รับรางวัลกับพระรามอยู่บ่อยครั้ง  เช่น ตอนที่เขาไปเผากรุงลงกา  ได้รับรางวัลเป็นผ้าขาวม้า

  ส่วนตอนที่เขาไปช่วยพระรามที่เมืองบาดาลตอนไมยราพจับตัวไป เขาได้รางวัลเป็นแหวน  และสุดท้ายตอนที่เขาทำศึกกับกรุงลงกา  เขาได้สนมมาครอบครองถึง ห้าพันคนและยังได้รางวัลเป็นเมืองนพบุรี อีกด้วย แต่สุดท้ายหนุมานก็ไม่ได้เอาเมืองนพบุรีมาดูแล เพราะรู้ดีว่าตนเองนั้นไม่สูงศักดิ์พอที่จะครองเมืองจึงคืนเมืองให้กับพระรามนั่นเอง

          

สนับสนุนโดย  แจกสูตรหวยยี่กี

ประเพณีแห่ต้นกระธูปในวันออกพรรษาของชาวจังหวัดชัยภูมิ

        นับได้ว่าวันออกพรรษานั้นมักจะมีประเพณีมากมายที่ชาวบ้านต่างร่วมแรงร่วมใจช่วยกันสืบสานวัฒนธรรมมีหลายจังหวัดมากที่มีการออกมาตักบาตรเทโวร่วมกันในวันออกพรรษาภายในงานยังมีการจัดทำกิจกรรมมากมายเพื่อให้ชาวบ้านนั้นได้มาร่วมสนุกกันซึ่งวันออกพรรษานั้นนับว่าเป็นวันที่มีความสำคัญเกี่ยวกับพระพุทธศาสนายิ่งใหญ่สำคัญวันหนึ่งเลยทีเดียว

      และแน่นอนว่าชาวบ้านทั่วทุกจังหวัดนั้นต่างก็จะมาทำกิจกรรมร่วมกันเช่นการทำบุญตักบาตรไม่ว่าจะเป็นการตักบาตรอาหารสดหรือแม้แต่อาหารแห้งก็ตามหรือบางสถานที่ยังมีการตักบาตรขนมต้มยนต์หรืออย่างที่จังหวัดชัยภูมิเองก็มีประเพณีของจังหวัดชัยภูมิซึ่งเป็นประเพณีเก่าแก่ที่ทำกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษและปัจจุบันนี้ก็ยังมีการสืบสานประเพณีใดมาจากรุ่นสู่รุ่น สำหรับประเพณีที่ชาวจังหวัดชัยภูมิทำร่วมกันในวันออกพรรษานั่นก็คือประเพณีแห่ต้นกระธูป

        โดยประเพณีแห่ต้นกระธูปนี้ชาวบ้านจะต้องมีการมาทำต้นกระธูปซึ่งการทำต้นกระธูปนั้นก็จะเป็นการทำต้นไม้ที่มีความสวยงามนำกระดาษสีต่างๆมาตกแต่งต้นไม้กิ่งก้านสาขาแล้วแต่ใครจะกินธนาการว่าอยากจะให้ต้นกระธูปนั้นมีรูปร่างหน้าตาสวยงามอย่างไรหลังจากที่มีการตกแต่งต้นกระทู้เรียบร้อยแล้ว

พอถึงวันงานก็จะมีการนำต้นกระธูปนั้นขึ้นรถกระบะหลังจากนั้นก็จะมีชาวบ้านต่างพากันเดินแห่ขบวนซึ่งกระบวนการหาต้นกระทุ่มนั้นชาวบ้านจะแต่งตัวกันอย่างสวยงามโดยจะแต่งชุดไทยซึ่งเป็นชุดไทยพื้นบ้านของชาวจังหวัดชัยภูมิโดยการหานี้จะมีการแห่ต้นกระธูปรอบหมู่บ้าน

          อย่างไรก็ตามแต่ หลังจากที่มีการแห่รอบหมู่บ้านเสร็จเรียบร้อยแล้วชาวบ้านจะนำต้นกระธูปนี้ไปไว้ที่วัดซึ่งในปีพศ2563 นี้ได้มีการนำต้นกระธูปไปไว้ที่วัดดาวเรืองซึ่งวัดนี้นับได้ว่าเป็นวัดประจำหมู่บ้านที่มีการทำกิจกรรมการแห่ต้นกระธูปนี้มาอย่างยาวนานหลายปีหลังจากที่นำต้องกระทบไปไว้ที่หมู่บ้านแล้วในช่วงเวลากลางคืนก็จะมีการทำกิจกรรมโดยประเพณีนี้ชาวบ้านจะมีการนำใต้น้ำมันมาจุดที่ต้นกระธูปอีกทั้งยังมีการปล่อยโคมไฟ 

          สำหรับประเพณีการแห่ต้นกระธูปนี้ชาวบ้านเชื่อกันว่าจะเป็นพิธีกรรมที่แสดงถึงการเคารพสักการะองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าหลังจากที่พระองค์นั้นได้มีการขึ้นไปที่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่อที่จะไปเทศนาโปรดพระมารดาของพระองค์และเมื่อครบจำนวน 3 เดือนพระพุทธเจ้าจึงได้เสด็จกลับลงมาจากสรวงสวรรค์ดังนั้นชาวบ้านจึงได้มีการจัดประเพณีนี้ขึ้นมาเพื่อหวังเป็นการเฉลิมฉลองที่พระพุทธเจ้าเสด็จกลับลงมาจากสรวงสวรรค์นั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  aecasino

ตำนานบ้านบางหม้าย  จังหวัดสุพรรณบุรี 

         มีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งซึ่งถือได้ว่าเป็นตำนานของหมู่บ้านเลยก็ว่าได้ ซึ่งหมู่บ้านที่เราจะมาพูดถึงตำนานกันนี้มีชื่อว่า หมู่บ้านบางหม้าย ซึ่งเป็นหมู่บ้านหนึ่งในจังหวัด สุพรรณบุรี โดยเรื่องเล่านั้นมีอยู่ว่า ที่จังหวัดสุพรรณบุรี มีชายหญิงคู่หนึ่งพวกเขาอยู่กันคนละหมู่บ้าน

แต่ได้ชอบพอกัน จนมีการไปสู่ขอกัน และในวันที่จะมีการจัดงานแต่งงานนั่นเอง ระหว่างที่ฝ่ายเจ้าสาวแต่งตัวรอฝ่ายเจ้าบ้านอยู่ที่บ้าน ทางด้านเจ้าบ่าวนั้นก็ได้แต่งตัวเสร็จแล้วกำลังเดินทางไปหาเจ้าสาวที่อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง

ซึ่งการเดินทางในสมัยก่อนนั้นจะเป็นการเดินทาง ทางแม่น้ำเพราะสะดวกและรวดเร็วกว่าการเดินทางบนบกที่ต้องเดินลุยป่า ซึ่งความไกลกว่าและอันตรายมากกว่า ก่อนที่จะพายเรือไปบ้านเจ้าสาว เจ้าบ่าวได้มีการพายเรือไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง

ซึ่งหมู่บ้านดังกล่าวเป็นหมู่บ้านที่เจ้าบ่าวได้ไปว่าจ้าง วงมโหรี ปี่พาทย์ที่ให้มาเล่นตอนแห่ขันหมากในตอนเช้า และเมื่อเจ้าบ่าวและวงมโหรี เคลื่อนเรือออกจากหมู่บ้าน เพื่อที่จะไปหมู่บ้านของเจ้าสาวนั้น บังเอิญว่าเส้นทางที่ต้องพายเรือผ่านนั้น

ต้องผ่านคุ้งแม่น้ำขนาดใหญซึ่งจุดนั้น ว่ากันว่าเป็นคุ้งอันตราย เพราะเป็นที่อยู่ของเหล่าจระเข้หลายพันธ์ตัว และแต่ละตัวก็ดุร้ายมากทีเดียว และเมื่อมาถึงจุดนี้ เรือของเจ้าบ่าวกลับถูกจระเข้เข้าโจมตี ทำให้เรือล่ม ผู้คนบนเรือต่างก็ถูกจระเข้กิน และบางคนก็จมน้ำ ส่วนตัวของเจ้าบ่าวนั้น ถูกจระเข้คาบไป

ซึ่งจระเข้ตัวนั้น บังเอิญคาบเจ้าบ่าวผ่านหน้าบ้านเจ้าสาวพอดี เมื่อชาวบ้านเห็นว่าจระเข้คาบเจ้าบ่าวมาจึงได้ไปเรียกให้เจ้าสาวมาดู เมื่อเจ้าสาวเห็นชายคนรักอยู่ในปากของจระเข้ก็วิ่งออกตามจระเข้ไปซึ่งเธอวิ่งไปตามริมตลิ่งไป ตาก็คอยมองร่างของชายคนรักไป ในตอนแรกจระเข้ คาบเจ้าบ่าวว่ายน้ำไปทางทิศเหนือ

ซึ่งเจ้าสาววิ่งตามไปได้สักพักก็ไม่สามารถตามต่อได้เพราะติดเนินเขา ได้แต่มองตามร่างของชายคนรักไปจนสุดสายตา  ซึ่งตรงบริเวณดังกล่าวนั้น ต่อมาชาวบ้านจึงเรียกบริเวณนี้ว่า วัดบ้านสุด  อย่างไรก็ตามเธอได้ยินข่าวว่าจระเข้ได้คาบชายคนรักของเธอลงมาทางทิศใต้แล้ว

เธอจึงมาดูก็พบศพของชายคนรักของเธอถูกคาบมาทิ้งไว้ตรงริมตลิ่ง เธอจึงได้นำร่างของชายคนรักไปทำพิธีทางศาสนา ซึ่งในเวลาต่อมานั้นได้มีการเรียกจุดที่พบศพชายคนรักของหญิงสาวว่า วัดศพ และหมู่บ้านที่หญิงสาวอาศัยอยู่ก็ถูกเรียกว่าหมู่บ้านบางแม่หม้าย นับตั้งแต่นั้นเรื่อยมา

 

สนับสนุนโดย  สูตรหวยยี่กี ruay

เพชรสีฟ้าประวัติศาสตร์แห่งอังกฤษ

ซึ่งพระเจ้าจอร์จที่4ถ้าใครเคยศึกษาประวัติจริงๆแล้วจะรู้ว่าพระเจ้าจอร์จที่4ที่ดูแลประเทศอังกฤษในตอนนั้นใช้คำว่าเป็นช่วงขาลงของประเทศอังกฤษหรือว่าเป็นช่วงที่เลวร้ายที่สุดครั้งนึงในประวัติศาสตร์ของอังกฤษเลยก็ว่าได้เพราะว่าพระเจ้าจอร์จที่4

โดยตามข้อมูลในหน้าประวัติศาสตร์เขาได้บอกเอาไว้อีกว่าพระเจ้าจอร์จที่4นั้นเป็นบุคคลที่ฟุ่มเฟือยมากๆเป็นบุคคลที่ใช้เงินจากภาษีของประชาชนซื้อของทุกอย่างเพื่อมาปนเปอตัวเองไม่ว่าจะเป็นทั้งวัตถุไม่ว่าจะเป็นทั้งสิ่งของหรือแม้แต่อะไรก็แล้วแต่ที่เขาอยากได้เขาจะซื้อมาเป็นของตัวเองทั้งหมดเลย

นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่เขานั้นเสียเงินให้มากที่สุดมากที่สุดนั่นก็คือของกินนั่นเองโดยตามข้อมูลในอดีตเกียวกับพระเจ้าจอร์จที่4ในตอนแรกพระเจ้าจอร์จเขาไม่ได้เป็นคนแบบนี้เลยแต่หลังจากที่เขาได้รับเพชรเม็ดนี้มาอยู่เขากลายเป็นคนที่อยากได้ของทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาอยากจะได้

โดยเฉพาะของกินเขากินทุกอย่างที่เขาอยากจะกินจนทำให้ร่างกายของเขาเริ่มมีอาการอ้วนขึ้นๆเรื่อยๆจนสุดท้ายเขาได้ประสบพบเจอกับโรคร้ายแรงต่างๆเกี่ยวกับโรคอ้วนมากมายไม่ว่าจะเป็นทั้งโลกความดันโรคหัวใจโรคเส้นเลือดในสมองตีบ

ซึ่งโรคเหล่านี้ก็ได้รุมเล้าใส่พระเจ้าจอร์จที่4จนทำให้เขาเสียชีวิตในเวลาต่อมานั่นเองและหลังจากที่พระเจ้าจอร์จที่4ได้เสียชีวิตลงเพชรเม็ดนั้นก็ยังอยู่เป็นราชสมบัติของเขาอยู่แต่เนื่องจากว่าประเทศอังกฤษในยุคนั้น

เกิดสภาวะเศษกิจที่ย้ำแย่เป็นอย่างมากจากการที่พระเจ้าจอร์จใช้เงินไปอย่างไม่คิดจนทำให้ประเทศอังกฤษต้องหาเงินมาใช้หนี้ให้หมดเขาเลยได้นำเอาสมบัติต่างๆเกี่ยวกับพระเจ้าจอร์จที่4เอาออกมาขายเพื่อนำเงินไปใช้หนี้

ดังนั้นของหนึ่งในชิ้นนั้นนั่นก็คือสร้อยเพชรอาถรรพ์นี้ด้วยนั่นเองโดยประเทศอังกฤษก็ได้ประกาศว่ามีใครต้องการของเหล่านี้ให้มาประมูลซื้อและในเวลานั้นเองเพชรเม็ดนี้ก็ได้ถูกPRเอาไว้อย่างดีเลยว่าเป็นเพชรที่ต้องคำสาปเป็นเพชรที่ต้องอาถรรพ์มากมาย

จนทำให้ราคาเพชรเม็ดนี้พุ่งสูงไปอย่างมากแต่ความต้องการของคนก็ยังสูงเช่นกันเพราะเพชรเม็ดนี้ค่อนข้างที่จะสวยมากและคนต้องการที่จะรู้ว่าเพชรเม็ดนี้เป็นอาถรรพ์จริงหรือเปล่า

สร้อยเพชรเม็ดนี้ก็ได้ถูกประมูลไปโดยนายธนาคารคนหนึ่งที่มีนามว่า นายโทมัสโฮป นั่นเองซึ่งนายโทมัสโฮปตามประวัติคือเขาเป้นคนที่ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้เลยไม่เชื่อเรื่องวิญญาณไม่เชื่อเรื่องคำสาป

และเขาต้องการที่จะลองของเลยได้ซื้อเพชรเม็ดนี้มาเราไม่แน่ใจว่าอาถรรพ์นั้นมันได้จริงหรือเปล่าหลังจากได้ครอบครองไม่นานเขาก็ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์อย่างไม่มีสาเหตุเลย

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนันบอล ถูกกฎหมาย