ตำนานเรือโนอาห์

ข้อมูลที่เราได้ไปทำการศึกษาเพิ่มเติมมาเขายังได้บอกมาว่าจากคัมภีร์โบราณที่ได้ถูกคันเจอที่มีชื่อว่า คัมภีร์โซโรอัสเตอร์ บทที่สองเขาได้มีการกล่าวถึงเหตุการณ์หนึ่งเหตุการณ์ที่ได้มีความคล้ายคลึงกับเรือโนอาห์

ถ้าหากจะให้เราพูดถึงเรือเราก็จะนึกถึงตำนานประมาณว่าสมัยก่อนมันจะมีน้ำท่วมและสัตว์ต่างๆที่มันได้อยู่บนโลกมันก็จะถูกคัดเลือกอยู่หนึ่งสายพันธุ์จะมีทั้งเพศผู้และเพศเมียหนึ่งคู่ได้ไปอยู่บนเรือเพื่อที่จะได้อยู่รอดส่วนที่เหลือที่ไม่ได้มีการคัดเลือกให้ขึ้นไปก็ถูกน้ำท่วมจากนั้นก็ได้ตายไป

ซึ่งมันได้เป็นตำนานที่ได้เล่ากันมาอย่างยาวนานมากแต่ว่าตรงนี้มันได้เหมือนกับเรือโนอาห์อยู่ตรงที่ว่า คัมภีร์โซโรอัสเตอร์ ในบทที่สองเขาบอกเอาไว้ว่าในยุคนั้นได้เกิดมหันตภัยที่ได้เกิดขึ้นทั่วโลกสัตว์หรือมนุษย์หรือสิ่งที่มีชีวิตอยู่บนโลกนั้นตายหมดไม่เหลือเลยดังนั้นเขาจึงมีการคัดเหลือมนุษย์สิงสาลาสัตว์ต่างๆ

จำนวนหนึ่งเพื่อที่จะรักษาและนำเอามาขยายพันธุ์ต่อในอนาคตเมื่อโลกได้กลับมาเป็นปกติถามว่า เหตุมหันตภัย ธรรมชาติที่ได้เจอขึ้นในยุคนั้นมันคืออะไรน้ำท่วมใช่หรือไม่ บอกเลยว่าไม่ใช่  แต่มันได้เป็นยุคน้ำแข็ง

สำหรับยุคน้ำแข็งที่เรากำลังได้พูดถึงกันอยู่นั้นมันคือยุคที่ทั่วโลกได้มีอุณหภูมิต่ำลงอย่างรวดเร็วและทำให้ขาดอาหารขาดแคลนและสุดท้ายสิ่งที่มีชีวิตก็ไม่สามารถที่จะอยู่รอดได้ โดยเรื่องนี้นักกาลวิทยายังได้บอกเอาไว้อีกว่ายุคน้ำแข็งครั้งสุดท้ายนั้นมันได้เกิดขึ้นมา เมื่อประมาณ18,000ปีก่อน

และได้จบลงเมื่อประมาณ10,000ก่อนคริสตกาลมันจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าเมืองที่อยู่ใต้พิภพที่ถูกสร้างขึ้นตาม คัมภีร์โบราณมันคือคำเตือนของคนที่อยู่บนฟ้าและตรงจุดนี้มันได้เป็นทฤษฎีแรกที่ได้พูดถึงว่ามนุษย์ต่างดาวหรือคนบนฟ้าเป็นคนที่มาเตือนมนุษย์สมันก่อนให้ระวังเรื่องของภัยธรรมชาติหรือสิ่งที่มันกำลังจะเกิดขึ้น

เพื่อจะดำรงเผาพันธุ์จนมาถึงทุกวันนี้และอีกทฤษฎีหนึ่งที่น่าสนใจเหมือนกันก็คือในสมัยก่อนมันได้มีสงครามทางอวกาศกัน โดยหลักฐานได้ยืนยันว่าเรื่องนี้มันอาจจะเป็นเรื่องจริงในสมัยก่อนก็เหมือนเดิมมันเป็นความอ้างอิงจากจิตกรรมฝาผนังที่มันได้เกิดขึ้นมาเหมือนเดิมจิตกรรมนี้ยังได้บอกเอาไว้อีกว่ามีการขี่ม้าสวรรค์ที่มันสามารถเหาะเดิมบนอากาศได้และกำลังสู้กับบางสิ่งบางอย่างที่อยู่บนฟ้าหากกล่าวแบบนี้เราลองตีความหมายของคนสมัยก่อนกับปัจจุบันมันคืออะไรกัน

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนันออนไลน์

เรือที่ได้หายไปอย่างลึกลับ

เรือThe Baychimo

สำหรับเรื่องของเรือลำนี้ได้เริ่มมาจากบิรษัทแห่งหนึ่งได้ทำการจัดต่อลำเรือที่มันได้มีชื่อเรียกว่าเรือThe Baychimo ซึ่งทางบริษัทนั้นได้จัดสร้างขึ้นเมื่อในปี1914 เนื่องจากเอาไว้ทำการขนส่งด้านสินค้าบนน่านน้ำแคนาดาและอลาสก้า

ซึ่งเรือลำดังกล่าวนี้มันได้ถูกออกแบบมาอย่างดีพิเศษ เนื่องจากมัมนจะได้มีความทนต่อในสภาพของอากาศรวมไปถึงฝั่งของทะเลที่ได้อยู่ทางด้านขั่วโลกเหนือและมันก็ยังเต็มไปด้วยธารน้ำแข็ง เมื่อมาถึงระยะเวลาประมาณ1931The Baychimo

ซึ่งเรือลำนี้ก็ได้ติดอยู่กับธารน้ำแข็งของฝั่งอลาสก้า จึงได้ทำให้กัปตันรวมไปถึงลูกเรือจึงต้องปล่อยเรือทิ้งเอาไว้และเดินทางออกจากเรือลำดังกล่าวเพื่อเป็นความปลอดภัยของทุกคนเอง ในภายหลังที่ได้มีการเกิดพายุของหิมะ นอกจากนี้เรือลำนี้มันก็ได้ถูกปล่อยทิ้งเอาไว้อยู่กลางธารน้ำแข็งและได้เวลาต่อมาพวกเขาก็ได้กลับไปสำรวจเรือดังกล่าวที่สุดก้ได้พบว่ามันไม่อยู่ต้องที่จุดนั้น

แล้วมันได้หายไปอย่างไม่มีร่องรอย ทั้งนี้ก็ยังได้มีการสันนิษฐานว่าเรือThe Baychimoนั้นมันอาจจะจมอยู่ใต้มหาสมุทรแล้วก็เป็นได้ นอกจากนี้มันก็ได้มีเรื่องของเรือThe Baychimoมันก็ได้ปรากฎขึ้นมา

วันหนึ่งได้มีคนเขาได้พบกับเรือThe Baychimoที่มันได้แล่นไปยังฝั่งของทะเลอลาสก้าอยู่ประมาณหลายรอบบด้วยกัน จากนั้นมาเรือดังกล่าวมันก็ได้หายไปอย่างปริศนา เมื่อเวลาไม่นานก็ได้มีเรือกู้เรือไปเข้ามาถึงพอดีอีกทั้งยังได้มีคนจำนวนมากที่ได้เห็นเรือดังกล่าวได้เข้าไปติดกับเรือน้ำแข็งจากนั้นเรือThe Baychimoนั้น

มันก็ได้หายไปเมื่อละสายตา เนื่องจากนี้ในเหตุการณ์ที่ได้เข้าไปพบกับเรือThe Baychimo มันได้ทำให้เรือThe Baychimoลำนี้มันได้ถูกกล่าวขานเอาไว้ว่ามันได้เป็นเรือปีศาจแห่งอาร์กติกนี่เอง

เรือSSValeencia

สำหรับเรือลำนี้ได้เป็นเรือกลไฟที่มีการอับปางอยู่ทางด้านชายฝั่งคูเวอร์ ซึ่งอยู่ทางด้านแทบโคลอมเบีย เมื่อในปี1906 เนื่องจากเรือSSValeenciaได้ประสบพบเจอกับสภาพอากาศที่โหดร้ายมันจึงได้ทำให้เรือดังกล่าวนี้ได้อับปางลงในทะเลจากนั้น

ลำเรือได้ปะทะกับแนวปาการังจึงได้ทำให้เรือแตกและทำให้เรือนั้นอับปางจมลงในที่สุดจากนั้นทางด้านลูกเรือและบรรดาผู้คนที่อยู่บนเรือกำลังจะสละลำเรือ ซึ่งได้ออกมาจากเรือที่ใกล้จะอับปางจมลงทะเลด้วยเรือชูชีพ

เนื่องจากเรือชูชีพดังกล่าว มันได้หายไปในท้องทะเลมันจึงได้ทำให้บรรดาผู้โดยสารที่มีอยู่ประมาณ146คนต้องจบชีวิตลงและมีผู้คนอดมาได้แค่เพียง37คนเท่านั้น

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนันออนไลน์