การครอบครองดินแดนออสโตมัน ของ รัสเซียตลอดคริสต์ศตวรรษที่ 19

กองทัพรัสเซียได้บุกเข้าไปถึงชานกรุงคอนสแตนติโนเปิลแต่ประเทศตะวันตกดำเนินการทางการทูตยับยั้งไม่ให้รุกคืบต่อไปแรงกดดันของอังกฤษทำให้รัสเซียยินยอมว่าจะตกลงสงบศึกในเดือนมกราคม ปี1878 ในเดือนมีนาคม ปี 1878 มีการลงนามในสนธิสัญญา

ซึ่งรัสเซียได้มีโอกาสกอบกู้สถานของการที่เคยเป็นผู้แพ้ในสงครามไคเมียในครั้งนั้นอังกฤษร่วมมือกับฝรั่งเศสตุรกี

ขัดขวางไม่ให้รัสเซียอ้างสิทธิเหนือกรุงคอนสแตนติโนเปิลและเขตช่องแคบ แต่ครั้งนี้ตุรกียอมรับเอกราชของดินแดนต่างๆที่รัสเซียสนับสนุนอันได้แก่ โรมันเนีย เซอร์เบีย มอนเตเนโกร และ บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา 

แต่อีก 3 เดือนต่อมา อังกฤษ และ ฝรั่งเศส ซึ่งหวาดระแวงการขยายอิทธิพลของรัสเซียในคาบสมุทรบอลข่านก็ได้ร่วมมือกับเยอรมนี ออสเตรีย ฮังการี และ อิตาลี จัดการประชุมใหญ่แห่งเบอร์ลินขึ้นระหว่างวันที่ 13 มิถุนายน ถึง 13 กรกฎาคม ปี 1878 และบีบบังคับให้รัสเซียยอมรับสนธิสัญญาเบอร์ลินแทนสนธิสัญญาซาน สเตฟาโน 

สนธิสัญญาฉบับใหม่นี้ตัดทอนผลประโยชน์ของรัสเซียลงมากเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้นในกลางปีคริสตศักราช 1914 รัสเซียที่อยู่ฝ่ายมหาอำนาจสัมพันธมิตรมีความคาดหวังขึ้นอีกครั้งที่จะได้ครอบครองดินแดนตุรกีซึ่งในคราวนี้อยู่ฝั่งมหาอำนาจกลาง

การครอบครองดินแดนออสโตมัน ของ รัสเซียตลอดคริสต์ศตวรรษที่ 19

เพื่อเปิดเส้นทางการเดินเรือจากเส้นทะเลดำลงสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนให้จงได้

ทั้งนี้เสนาบดีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจึงอ้างสิทธิรัสเซียเหนือกรุงคอนสแตนติโนเปิลและดินแดนบริเวณช่องแคบเขาดำเนินเรื่องอย่างจริงจังด้วยการส่งบันทึกไปยังอังกฤษและฝรั่งเศสเพื่อเรียกร้องสิทธิของรัสเซียเหนือดินแดนดังกล่าว

ในขณะเดียวกันผู้อำนวยการสถานบันโบราณคดีรัสเซียในกรุงคอนสแตนติโนเปิลซึ่งใฝ่ฝันให้รัสเซียเข้าครอบครองดินแดนตุรกีก็เสนอให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมาการขึ้นเพื่อกำกับการสำรวจและอนุรักษ์โบราณสถานต่างๆ  aesexy   ในกรุงคอนสแตนติโนเปิลตั้งแต่ครั้งเป็นจักรวรรดิไบแซนไทน์ทันทีที่กองทัพรัสเซียเข้าสู่นครแห่งนี้

อังกฤษซึ่งเคยขัดขวางความพยายามของรัสเซียในการครอบครองดินแดนของจักรวรรดิออสโตมันมาตลอดคริสต์ศตวรรษที่ 19 ในคราวนี้ได้มีท่าทีเปลี่ยนไปรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศได้ดำเนินการทูตเอาใจรัสเซียเพื่อให้รัสเซียอยู่ร่วมกลุ่มพันธมิตรต่อไป

โดยไม่แยกไปทำความตกลงสันธิภาพกับเยอรมนีนดยบายคอนเกรทถูกใจชาติพันธมิตรในกลุ่มทำให้อังกฤษยอมรับการเรียกร้องดินแดนต่างๆและทำความตกลงลับระหว่างอังกฤษฝรั่งเศสกับรัสเซียในเวลาต่อมาสองวันหลังจากกองทัพเรืออังกฤษพ่ายแพ้ตุรกีในการรบบริเวณช่องแคบรัฐบาลอังกฤษได้ลงนามในความตกลงคอนสแตนติโนเปิลในวันที่ 18 มีนาคม ปีคริสตศักราช 1915 ความตกลงนี้มีใจความสำคัญคือเมื่อสงครามสิ้นสุดลงโดยฝ่ายสัมพันธมิตรมีชัยชนะรัสเซียจะได้สิทธผนวกกรุงคอนสแตนติโนเปิลดินแดนฝั่งตะวันตกของช่องแคบ

ประวัติของ พระเจ้าอักบาร์มหาราช

       สำหรับประวัติความเป็นมาของ พระเจ้าอักบาร์มหาราช นั้น พระองค์เป็นกษัตริย์ที่ครองราชย์มาแล้ว หลาร้อยปี และตอนที่พระองค์ขึ้นครองราชย์ นั้นพระองค์ เป็นกษัติย์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดพระองค์หนึ่ง    พระสมัยของพระองค์ถือได้ว่าเป็นยุคที่รุ่งเรืองมากที่สุดของจักรวรรดิโมกุลในประเทศอินเดียเลยทีเดียว 

    นอกจากความสามารถอันเก่งกาจที่ พระเจ้าอักบาร์มหาราช ที่ทรงสามารถแผ่ขยายดินแดนอินเดียได้อย่างกว้างขวางแล้วความยิ่งใหญ่ของพระองค์ยังอยู่ที่การให้เสรีภาพในการนับถือศาสนาของประชาชนอีกด้วย  โดยพระเจ้าอักบาร์มหาราช นั้นพระองค์มมีวิธีการต่างต่างมากมายในการปกครองประชาชน และการปกครองของพระองค์นั้นก็มีความต่างจากกษัตริย์มุสลิมองค์อื่นอื่นที่ผ่านมามากเลยทีเดียว 

       เนื่องจากว่าหากเป็นกษัตริย์องค์อื่นอื่นนั้น มักจะกีดกันคนนอกศาสนาอยู่เสมอ แต่สำหรับ พระเจ้าอักบาร์มหาราช นั้นพระองค์ทรงมอบเสรียภาพให้กับประชาชน ที่จะเลือกนับถือศาสนาอะไรก็ได้ สำหรับเสรีภาพที่ว่าก็อย่างเช่นทรงแต่งตั้งขุนนางและข้าราชการต่างๆสมัยโมกุลโดยปราศจากอคติทางศาสนา  

     พระองค์ทรงริเริ่มศานาใหม่ในรัชสมัยของตัวเอง โดยมีการตั้งชื่อว่าศาสนา ดินอิอิลาฮี หรือแปลว่าชนะแห่งพระเจ้าซึ่งเป็นความพยายามที่จะรวบรวมศาสนาอิสลามเท่ากับคริสต์อินดู เชนและศาสนาอื่นเพื่อป้องกันความขัดแย้งทางศาสนาที่จะเกิดขึ้นระหว่างประชาชน  และไม่เพียงเท่านั้น 

พระเจ้าอักบาร์มหาราชยังกระทำการที่แตกต่างจากกษัตริย์มุสลิมยุคก่อนอย่างสิ้นเชิงเช่นพระองค์ให้การสนับสนุนให้ผู้ที่นับถือศาสนาต่างกันมีกิจกรรมทางศาสนาที่สามารถทำร่วมกันได้

     พระเจ้าอักบาร์มหาราช ทรงเปิดรับวิทยาการจากทุกศาสนาดังจะเห็นได้จากการที่มีที่ปรึกษาเป็นนักปราชญ์หลายศานาด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นชาวพุทธ   คริสต์   อิสลามและฮินดู   ทรงสั่งให้ยกเลิกการจ่ายภาษี ซีซียา จากบุคคลผู้นับถือศาสนาอื่น

ที่ไม่ใช่มุสลิมและอื่นๆ อีกมากมายด้วยพระอัจฉริยภาพและทัศนคติที่ล้ำสมัยเปิดกว้างดังนี้จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมตลอดระยะเวลาแห่งการครองราชย์ครั้ง 49 ปีถือเป็นช่วงเวลาที่ราชวงศ์โมกุลเจริญรุ่งเรืองถึงจุดสูงสุดแข็งแกร่งที่สุดและมีราชอาณาเขตกว้างไกลที่สุด 

     อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าในปัจจุบันนี้ผู้คนในแต่ละประเทศนั้นจะมีการนับถือศาสนาที่มีความแตกต่างกันออกไปแต่ทุกคนก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขและไม่มีปัญหาทางศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง

ซึ่งคนต่างศาสนาปัจจุบันก็สามารถแต่งงานกันได้และใช้ชีวิตด้วยกันได้ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งซึ่งกันและกันดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าพระเจ้าอักบาร์มหาราชนั้นคือต้นแบบของการให้คนที่นับถือต่างศาสนากันสามารถอยู่ร่วมกันของทุกศาสนาได้อย่างมีความสุขนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย.    aesexy

DIY ทำกล่องดินสอน่ารักๆด้วตัวเองง่ายๆ

DIY ทำกล่องดินสอ สำหรับทุกคนแล้วนั้นเชื่อว่าทุกคนต่างก็ต้องอยากมีอุปกรณ์น่ารักๆเอาไปใช้กัรใช่มั้ยคะ วันนี้เราจะมาสอนดีอวายการทำกล่องดินสอด้วยตนเอง โดยจะมีทั้งหมเสามแบบค่ะ โดบขอบอกเลยว่าเรานั้นไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์เยอะมาก หลักเลยนั้นก็คือ ปากกามาค์เกอร์ กระดาษแข็ง กาวร้อน 

กล่องดินสอรูปผลไม้

ก่อนอื่นให้เรานั้นนำกระดาษแข็งมาและนำดินสอมาวาดรูปเป็นรูปผลไม้เช่นวงกลมสำหรับการขึ้นรูปแอปเปิ้ลซ่อมหรือเชอร์รี่หลังจากที่เราทำการวาดรูปร่างนิดๆเสร็จแล้วก็ให้นำกรรไกรมาตัดตามรอยข องดินสอค่ะนอกจากนั้น

เรายังสามารถที่จะทำเป็นรูปทรงอื่นๆได้นำกระดาษสีอื่นๆมาทำเป็นลวดลายสำหรับตกแต่งกล่องดินสอของเราได้อีกด้วย นำกระดาษนั้นมาติดกาวเข้าด้วยกันให้ดูเป็นรูปเป็นร่าง

สมมุติว่าถ้าคุณนั้นวาดรูปวงกลมเอาไว้สำหรับทำเป็นส้มคุณก็จำเป็นที่ต้องนำกระดาษสีเดียวกันนำมาวาดรูปวงกลมให้ขนาดเท่ากันกับรูปวงกลมอันแรกและให้นำมันมาทากาวและเอาไปติดที่วงกลมอันแรก

เพื่อให้กลายเป็นช่องสำหรับเป็นกระเป๋าและใส่ของได้ และคุณยังสามารถที่จะรวยเละๆกากเพชรน่ารักๆรวมถึงว่าดวงตาจมูกปากน่ารักๆเพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับกล่องดินสอด้วย 

ขวดพลาสิติกเก็ปปากกาและดินสอ

นำขวดพลาสติกของคุณมาหลังจากนั้นให้นำปากกา Marker ที่มีความติดทนทานถาวร มาวาดลวดลายน่ารักๆบนขวดน้ำพลาสติกของคุณ นอกจากนั้นคุณยังสามารถที่จะนำกระดาษแข็ง

หรือกระดาษโฟมน่ารักๆมาวาดรูปเป็นชิ้นส่วนเล็กๆน่ารักตามที่คุณต้องการและนำมาตกแต่งประดับตามขวดพลาสติกของคุณให้ดูมีลวดลายที่น่ารักมากขึ้น เราก็สามารถที่จะใส่ปากกาดินสอยางลบไม้บรรทัดลงไป

ในขวดพลาสติกนี้ได้ซึ่งขวดพลาสติกนี้ก็จะกลายเป็นกรดพลาสติกเก็บปากกาและดินสอของเราได้เป็นกล่องดินสออันนึงนี่เอง 

กล่องดินสอ Nutella

โดยให้เรานั้นนำกระป๋องช็อกโกแลตของแบรนด์ Nutella มาล้างให้สะอาดหลังจากที่สะอาดและแห้งเรียบร้อยแล้วนั้นให้เรานั้นนำสีอะคริลิคมาระบายสีข้างในตามลวดลายที่เราต้องการเลยค่ะเสร็จแล้วเราสามารถที่จะนำกระดาษสีขาวหรือสีต่างๆ

มาวาดลวดลายและนำไปแปะบ่นขวด ของ Nutella ได้ค่ะหลังจากที่เราตกแต่งอย่างเรียบร้อยและสวยตามใจเราแล้วเราก็หาของที่มีความแข็งมากมาเจาะเป็นรูขนาดพอสำหรับใส่ปากกาของเราลงไปแค่นี้เราก็ได้ช่องใส่ปากกาในกระป๋องนูเทลล่าง่ายๆแล้วค่ะ แค่นี้เราก็ได้กล่องดินสอน่ารักมาแล้วค่ะ

 

สนับสนุนโดย.  aesexy