การบุกเข้าโจมตีค่ายพักชาวอินเดีย

การบุกเข้าโจมตีค่ายพักชาวอินเดีย สงครามอินเดียรอบใหม่นี้เกิดขึ้นพร้อมๆกับตามรัฐต่างๆทั่วทั้งประเทศและดำเนินต่อเนื่องไปตลอดทั้งศตวรรษกระทั่งเกิดสงครามกลางเมืองระหว่างฝ่ายเหนือกับฝ่ายใต้ขึ้นในช่วงระหว่างปีคริสต์ศักราช 1861 – 1865 ชาวอินเดียก็แตกออกเป็นสองฝ่ายคือกลุ่มที่ช่วยฝ่ายเหนือหรือฝ่ายรัฐบาลกลางรบ

เพื่อหวังที่จะได้รับการตั้งถิ่นฐานโดยอิสระภายหลังที่สงครามเลิกกับฝ่ายที่หวังว่าฝ่ายใต้จะเป็นฝ่ายชนะเพราะมีการเกร็งผลที่ต่างกัน

แต่ภายหลังสงครามจบสิ้นลงโดยฝ่ายเหนือเป็นฝ่ายมีชัยนั้นก็ไม่ได้ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงใดๆขึ้นในการพพยายามผลักดันคนพื้นเมืองอินเดียออกไปอยู่ที่เขตสงวนฝั่งตะวันตกตามกฎหมายโยกย้ายฉบับเดิม

การต่อสู้ครั้งหลังนี้ที่มีการกล่าวถึงมากที่สุดมีอยู่ 2  ครั้งคือที่สมรภูมิลีเต้น บิ๊กฮอร์ ในเดือนมีนายน ปีคริสต์ศักราช 1876 ที่ริมแม่น้ำ ลีเต้น บิ๊กฮออร์ ทหารและรัฐบาลที่นำโดย นายพล จอร์จ อาร์มสตรอง คัสเตอร์ ผู้บัญชากองทหารม้าที่ 7 ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง

จากการสร้างผลงานสงบอินเดียเผ่าต่างๆมาแล้วหลายสนามรบจนเป็นเป้าหมายที่ฝ่ายอินเดียต้องการจะกำจัดเวลานั้นคัสเตอร์ปะทะกับอินเดียเผ่าซุและชายแอน ซึ่งมีหัวหน้าอินเดียที่มีชื่อและเป็นที่หมายหัวของรัฐบาลเป็นผู้นำนักรบเข้าต่อสู้จนนายทหารของจอมพลคัสเตอร์ต้องไปจนมุมล้อมอยู่ที่ลีเต้นบิ๊กฮอร์และถูกสังหารจนหมดสิ้นรวมถึงตัวนายพลคัสเตอร์ชัยชนะของฝ่ายอินเดียในครั้งนั้นถือเป็นชัยชนะที่สำคัญ

เพราะสามารถทำลายขวัญของทหารฝ่ายรัฐบาลลงได้อย่างมากมายแต่เหตุการครั้งหลังนับเป็นความสูญเสียครั้งสำคัญของฝ่ายยอินเดียยด้วยเช่นกัน

เหตตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นในปีคริสต์ศักราช 1890 เป็นการสังหารหมู่ชาวอินเดียเข้าสู่ที่ปักหลักโดยเป้าหมายที่ต้องการกำจัด เครซี่ ฮอร์ส 

แต่เครซี่ ฮอร์ส ได้เสีสยชีวิตลงตั้งแต่ปีคริสต์ศักราช 1877 แล้วกองทหารม้าที่ 7 ซึ่งสถาปนาขึ้นใหม่โดยบุกเข้าโจมตีค่ายพักชาวอินเดียแลพสังหารชาวอินเดียทั้งผู้หญิงและเด็กจำนวน 300 คน รวมทั้งลูกเมียของง เครซี ฮอร์ส ด้วยเหตุการณ์ในครั้งนั้นถือเป็นการข่มขวัญชาวอินเดียให้หวาดกลัว

ซึ่งก็ได้ผลทำให้ชาวอินเดียมากมายเริ่มหวาดกลัวการกวาดล้างและยินยอมอพยพไปอยู่ในนิคมอินเดียที่ทางฝ่ายรัฐบาลจัดให้อย่างไม่มีเงื่อนไขแต่ในช่วงท้ายๆของสงครามอินเดียนี้เองกับมีนักรบอินเดียผู้หนึ่งออกมาปลุกขวัญชาวอินเดียให้แก้ลุกขึ้นต่อสู้ต่อไปและกลายเป็นฝันร้ายครั้งใหม่ของคนขาวเขาคือ เจอโรนิโม 

เจอโรนิโม นำชาวอินเดีย ซึ่งอาจนำได้ว่ากลุ่มสุดท้ายที่ยังคงต่อสู้กับทหารกับคนขาวต่อไปแม้ความหวังจะเริ่มค่อยๆลดลงก็ตามแต่ก็ยังสามารถถสร้างความเสียหายให้กับฝ่ายรัฐบาลได้อย่างมากมายจนกลายมาเป็นความหวังสุดท้ายให้กับฝ่ายอินเดียจนกลายทำให้ชื่อเสียงของเขากลายมาเป็นที่จดจำมาถึงทุกวันนี้

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย.    ubett