โปแลนด์กับฮังการี เกี่ยวข้องอะไรกับ สหภาพโวเวียต

โปแลนด์กับฮังการี โดยในปี1953สตาลินก็ตายจากไปทิ้งให้ชาวโซเวียตงงประมาณว่าเราอยู่ภายใต้อำนาจของสตาลินมา30ปี

คือไม่เคยใช้ชีวิตแบบอื่นมานานมากแล้วนึกไม่ออกมาทำตัวไม่ถูกคืออยู่ภายใต้แรงกดดันมาตลอดเวลาและที่สำคัญปรากฎว่าคนที่ขึ้นมาปกครองต่อจากสตาลินชื่อว่า นิกิตา ครุสชอฟ

ปรากฏว่าเขาเป็นสายซอฟต์ทุกคนเป็นสายประนีประนอมเขาก็เลยมีนโยบายแบบde-Stalinisation ก็คือการแบบเยียวยาแผลเยียวยาจิตใจที่สตาลินได้ทำอะไว้ ซึ่งนโยบบายของเขาก็มีหลากหลายเลยไม่ว่าจะเป็นการปล่อยนักโทศบางส่วนออกมาเพิ่มอิสรภาพให้สื่อเพิ่มอิสรภาพให้งานศิลปะลดกฎอะไรบางอย่างผ่อนปรนมาตรการทางเศรษฐกิจอะไรประมาณนี้

รวมถึงความพยายามเอาใจส่วนปกครองท้องถิ่นต่างๆที่ไปกดดันเขาเอาไว้เยอะแยะมากมายยกตัวอย่างเช่นชัดๆเลยก็คือการยกไครเมียให้กับยูเครนนั่นแหละอย่างไรก็ตามขอวงเล็บเอาไว้ตรงนี้เลยว่าไม่ได้แปลว่าสตาลินตายไปแล้ว การกำจัดคนเห็นต่างจะหายไป

การกำจัดคนเห็นต่างทางการเมืองยังมีอยู่ในสหภาพโซเวียตหรือแม้แต่ในรัสเซียปัจจุบันก็ยังเหลืออยู่คือมันยังส่งต่อมาแต่มันอาจจะไม่ได้รุนแรงเท่สมัยสตาลิน ปรากฎว่าการที่ครุสซอฟทำแบบนี้มันก็เหมือนกับว่าการยอมรับกลายๆว่าสิ่งที่สตาลินทำมาก่อนหน้ามันผิดคือถ้าสตาลินไม่ผิดครุสชอฟไม่ต้องมา de-Stalinisation 

ดังนั้นผู้ปกครองท้องถิ่นต่างๆที่ทำตามสตาลินตลอด30ปี

ก็เลยเกิดการช็อกน้ำเกิดการงงชีวิตประมาณว่าที่ผ่านมาเราทำผิดมาตลอดเหรอเราจะต้องทำยังไงดีแต่ที่ชัดๆเลยก็คือกลุ่มคนที่ไม่ชอบการกระทำของสตาลินอยู่แล้วก็เลยลุกขึ้นมากันใหญ่เลยลุกขึ้นมาประท้วงใช่เราบอกมาตั้งนานแล้วว่าทำแบบนี้มันผิด

ยกตัวอย่างเช่นในโปแลนด์กังฮังการีก็มีการออกมาประท้วงอะไรกันต่างๆมากมาย ดังนั้นความมั่นคงของสหภามโซเวียตก็เลยเกิดการสั่นคอลนขึ้นอย่างจริงจังเชื่อว่าหลายคนอ่านถึงตรงนี้อาจจะสงสัยว่าโปแลนด์กับฮังการีไม่ได้อยู่สหภาพโซเวียตแล้วจะมาประท้วงเกี่ยวอะไรกันด้วยก็ต้องบอกว่าใช่มันไม่ได้อยู่สหภาพโซเวียตหรอก

แต่ว่ามันอยู่ใต้สิ่งที่เรียกว่าWarsaw Pact โดย Warsaw Pactนี่คือเหมือนแบบพันธมิตรทางการทหารที่เขาลุกขึ้นมาจับมือกันมีความร่วมมือกันอะไรต่างๆนาๆมากมายในช่วงสงครามเย็นซึ่งหลักๆมันก็เกิดมาเพื่อตอบโต้การเกิดขึ้นของNATOนนี่ล่ะที่เป็นพันธมิตรทางการทหารเหมือนกันแต่เป็นของฝั่งตะวันตกพวกสหรัฐอเมริกาอะไรต่างๆมันก็เลยเกิดมาเป็น Warsaw Pact ขึ้นมามีประเทศสมาชิกประเทศต่างๆมากมาย

 

สนับสนุนโดย.  หวยดี

แนะนำจังหวัดที่มีการจัดงานเทศกาลกินเจ 

         สำหรับใครอยากจะไปท่องเที่ยวในช่วงที่มีการจัดงานเทศกาลกินเจในบทความนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ที่มีการจัดงานเทศกาลกินเจจากหลายจังหวัดในประเทศไทย

มาดูกันว่ามีที่ไหนกันบ้างเผื่อถ้าหากว่าใครมีเวลาว่างก็สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆที่ได้ร่วมงานเทศกาลกินเจประจำจังหวัดเหล่านั้น 

      สำหรับในกรุงเทพฯมีการจัดเทศกาลประเพณีกินเจเป็นประจำทุกปีอยู่แล้วโดยสถานที่ที่มีการจัดงานใหญ่ที่สุดในกรุงเทพก็คือถนนเยาวราชนั่นเองซึ่งนอกจากจะมีการทำพิธีกรรมต่างๆแล้วถนนเยาวราชยังมีอาหารตลอดสองข้างทางซึ่งเป็นอาหารเจมาวางขายดังนั้นถ้าหากใครเป็นคนกรุงเทพฯหรือเป็นคนปริมณฑลก็สามารถไปร่วมงานที่ถนนเยาวราชได้ 

         อย่างไรก็ตามสำหรับใครที่อยู่ในจังหวัดนนทบุรีถ้าหากว่าสนใจจะร่วมงานเทศกาลกินเจที่จัดขึ้นภายในจังหวัดนั้นก็มีเช่นเดียวกันโดยที่จังหวัดนนทบุรีนั้นจะมีการจัดงานอยู่ที่วัดพระบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ซึ่งภายในงานก็จะมีการอัญเชิญพระนวะราชาพุทธะและมีการสวดมนต์ภาวนาการทำวัตรเช้าการถวายพุทธบูชาการเสกข้าวทิพย์และยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกเยอะแยะมากมาย

นอกจากนี้ยังมีการทำบุญแจกข้าวสารบริจาคสิ่งของตามจิตศรัทธาอย่างไรก็ตามหากใครต้องการไปร่วมเทศกาลกินเจในจังหวัดนนทบุรีนั้นบริเวณตลาดใกล้กับวัดพระบรมก็มีการขายอาหารเจให้กับบรรดานักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินเช่นเดียวกัน 

       นอกจากนี้ที่จังหวัดสมุทรสาครเองก็มีการจัดเทศกาลกินเจเช่นเดียวกันซึ่งในจังหวัดสมุทรสาครนั้นมีศาลเจ้าใหญ่ๆอยู่มากมายหลายเจ้าด้วยกันโดยแต่ละศาลเจ้านั้นก็จะมีการจัดเทศกาลกินเจอย่างเช่นศาลเจ้าพ่อหลักเมืองหรือแม้แต่โรงเจมูลนิธิการกุศลสมุทรสาครนอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าแม่อยู่หัวนี้และศาลเจ้าปุนเถ้ากงคลองมหาชัยและยังมีสารอื่นๆอีกเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดเลยทีเดียวซึ่งแต่ละที่นั้น

   การจัดงานเทศกาลกินเจ   นอกจากจะมีการกิจกรรมการทำบุญในช่วงเทศกาลกินเจแล้วก็ยังมีร้านค้าเยอะแยะมากมายมาออกบูธคอยบริการนักท่องเที่ยวซึ่งมีอาหารมากกว่า 100 เมนูเลยทีเดียว

          อย่างไรก็ตามไม่ใช่เพียงแค่กรุงเทพฯและนนทบุรีรวมถึงจังหวัดสมุทรสาครเพียงเท่านั้นแต่จังหวัดนครปฐมรวมถึงจังหวัดสระบุรีและจังหวัดจันทบุรีนอกจากนี้ยังมีจังหวัดพิษณุโลกรวมถึงอีกหลายจังหวัดในเขตภาคใต้ไม่ว่าจะเป็นภูเก็ตหรือจังหวัดตรังรวมถึงจังหวัดชุมพรก็มีการจัดงานเทศกาลกินเจกันอีกด้วยซึ่งส่วนใหญ่แล้วสถานที่ในการจัดงานเทศกาลกินเจตามต่างจังหวัดนั้นมักจะมีการจัดตามโรงเจต่างๆนั่นเอง ดังนั้นหากใครสนใจก็ค้นหาข้อมูลการจัดงานของแต่ละจังหวัดได้ว่ามีการจัดโรงเจที่ไหนบ้างและสามารถเดินทางไปร่วมงานได้เลย

 

สนับสนุนโดย  หวยดี

ความลับของบุคคลในประวัติศาสตร์ 

           Poe Toaster  

  ความลับของบุคคล   หากพูดถึงชื่อ Poe Toaster เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้ อาจจะไม่เคยได้ยินชื่อเสียงนี้มาก่อน แต่ถ้าหากคุณเกิดทันในช่วงยุค 80 หรือว่ายุค 90  แล้วล่ะก็ เชื่อว่าน่าจะพอคุ้นหูกับชื่อนี้กันมาบ้าง เขาเป็นบุคคลที่เคยมีชีวิตอยู่จริงในประวัติศาสตร์แต่ก็เป็นบุคคลลึกลับเป็นอย่างมาก 

       สำหรับบทความนี้เราจะมาพูดถึงบุคคลในประวัติศาสตร์คนนี้กัน เขาคือ Poe Toaster  ซึ่งเราจะมาดูกันว่าในสมัยอดีตนั้นชื่อเสียงของ Poe Toaster โด่งดังขึ้นมาเกี่ยวกับเรื่องของอะไร หรือว่าเขาคือใครกันแน่ และเรื่องราวลึกลับของ Poe Toaster คืออะไร

      สำหรับคำว่า Toaster นั้นเป็นคำแสลงแปลว่าดื่มเป็นเกียรติให้ใครบางคน  ส่วน Poe นั้นคือชื่อของเอ็ดการ์อัลเลนโปนักเขียนชาวอเมริกันที่ถูกขนานนามว่าเป็นบิดาแห่งวรรณกรรมแนวสืบสวน

ซึ่งชีวิตบั้นปลายก็ค่อนข้างลึกลับไม่แพ้กับหนังสือที่เขาเขียนนะครับแม้กระทั่งตอนใกล้เสียชีวิตเขาก็มีอาการเพ้อแปลกๆที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้และคืนก่อนเสียชีวิตเขายังเพ้อถึงชื่อ Rainbow ๆหลายหนจนกระทั่งเสียชีวิตซึ่งไม่มีใครรู้ว่าเรโนเทคคือใครกันแน่ 

      ที่เรากำลังจะพูดถึงนี้เป็นคำที่สื่อใช้เรียกชายลึกลับที่จะสวมชุดสีดำสวมหมวกปีกกว้างและผ้าพันคอสีขาวพี่จรินแก้วคนอยากให้กับตัวเองและดื่มเพื่อเคารพหลุมศพของ Poe Toasterบอกแมริแลนด์ทุกวันที่ 19 มกราคม

ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของโปรเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 1949 แล้วก็จะหายตัวเป็นยามค่ำคืนพร้อมกับทิ้งดอกกุหลาบ 3 ดอกเอาไว้พร้อมกับขวดคอนยัคที่เหลืออีกขวดจะมีผู้ชมมาชุมนุมกันที่หลุมศพของโปรทุกปีทั้งนักข่าวและผู้ที่ชื่นชอบโปรด้วยหวังว่าจะได้เห็น Poe Toaster ซึ่งก็ไม่ค่อยมีใครได้เห็นหรือได้ถ่ายรูปได้

       แต่ว่าครั้งหนึ่งก็มีคนถ่ายเอาไว้ได้และได้รับการตีพิมพ์โดยนิตยสาร Life ในปี 1999 ซึ่งจะบ่งบอกได้เป็นอย่างดีถึงความโด่งดังของเรื่องนี้หลายครั้ง Poe Toaster ได้ทิ้งโน้ตสั้นๆไว้เช่นก้าฉันยังไม่ลืมเธอเลยและในปี 1993

มีข้อความความลับระบุว่าคบเพลิงจะถูกส่งต่อในปี 1999 มีข้อความแจ้งว่าผู้บังคับศพในรุ่นแรกได้เสียชีวิตลงเมื่อปีก่อนและได้ส่งต่อประเพณีนี้ให้กับลูกชายและตั้งแต่ปี 2010 

Poe Toasterก็ไม่ได้ไปเยี่ยมเยือนอีกเลยและไม่เคยปรากฏตัวอีกตั้งแต่นั้นมาเป็นการส่งสัญญาณว่าประเพณี 75 ปีนี้สิ้นสุดลง  และเป็นการสิ้นสุดความลึกลับของบุคคลในประวัติศาสตร์อีกคนหนึ่งเช่นเดียวกัน

 

สนับสนุนโดย.    หวยดี

ตำนานเกี่ยวกับเกาะคำชะโนด

ซึ่งด้วยความแปลกของต้นคำชะโนดที่อยู่บนเกาะชาวบ้านในระแวกนั้นก็ได้มีความเชื่อกันไปต่างๆนานาเชื่อว่ามีพญานาคมาร่ายมนต์ใส่เกาะแห่งนี้บ้างหรือว่าเป็นเกาะผีบ้างแต่ว่าจะมโนไปอย่างเดียวมันก็ไม่ได้ยุคนี้มันเป็นยุค5Gกันแล้ว

นอกจากนี้พวกเหล่านักวิชาการหัวใหม่เขาก็เลยเข้าไปศึกษาหาประวัติแล้วก็สืบค้นข้อมูลต่างๆเพื่อทำให้รู้ว่าเกาะแห่งนี้ทำไมมันถึงสามารถลอยน้ำได้แล้วก็รอดพ้นในการน้ำท่วมอยู่ทุกครั้งเลยเขาก็เลยมีทฤษฎีขึ้นมาว่าจริงๆแล้วตัวเกาะมันอาจจะไม่ได้เป็นพื้นที่โดยทั้งหมดเลยก็ได้มันอาจจะเป็นเพียงแค่กลุ่มก้อนอะไรที่มันลอยน้ำอยู่

เนื่องจากนี้เขาได้สันนิษฐานกันว่าพื้นที่ของตัวเกาะมันจะมีความหนาอยู่ประมาณ3เมตรโดยเกิดจากการเกิดขึ้นมารวมตัวกันของรากไม้ทั้งนั้นเลยคือเจ้ารากไม้มันได้งอกออกมามันก็จะแพ่ออกไปแบบแนวนอนเกี่ยวแน่นกันจนกลายเป็นพื้นดินมันก็เลยทำให้เป็นพื้นดินทีแน่นแบบพิเศษที่มีโพงอากาศมากมาย

โดยได้มีการนำเอามาบวกกันของพวกซากพืชซากสัตว์ที่มันทับถมสะสมกันมาอย่างยาวนานกว่าหลายร้อยปีจนกระทั่งดูไม่ออกเลยว่ามันเป็นซากอะไรแล้วและจับตัวกันเป็นก้อนแข็งๆ

ทั้งนี้ด้วยเหตุทั้งหมดทั้งมวนนี้เองคำชะโนดก็เป็นเหมือนก้อนอะไรที่ลอยน้ำอยู่แต่ทว่ามันเป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐานเท่านั้นถ้าจะให้รู้จริงๆมันก็ต้องไปสำรวจกันใต้น้ำเลยแต่ถึงอย่างไรก็ตามมันก็ยังเป็นเรื่องของความเชื่ออะไรนี้อีก

ซึ่งชาวบ้านแถวนั้นเขาก็เชื่อกันว่าที่แห่งนี้มันจะเป็นวังนาคินหรือว่าประตูสู่บาดารและมันก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะไปรบกวนสิ่งศักดิ์สิทธิอะไรที่มันอยู่ใต้น้ำบ้างก็บอกว่าข้างใต้น้ำมันจะมีจระเข้ยักษ์ตัวหนึ่งอาศัยอยู่มันก็เป็นบริเวณของเจ้าปู่ศีรสุทโธที่ได้อาศัยอยู่ในบริเวณที่แห่งนั้นเชื่อว่ามันจะกินคนที่เข้ามาในเขตนี้แต่จระเข้มีจริงทำไมมันไม่โผล่ขึ้นมาเลยสักครั้ง

ดังนั้นด้วยตำนานที่มันโหดอย่างนี้แบบนี้มันก็เลยทำให้คนเขานั้นกลัวเรื่องราวของคำชะโนดก็เลยได้กลายเป็นเพียงตำนานเรื่องราวปริศนากันต่อมา

จนกระทั่งสุดท้ายแล้วก็มีนักประดาน้ำใจกล้าอาศัยที่จำดำน้ำลงไปพิสูจน์เองโดยนักดำน้ำคนนี้ก็เป็นนักดำน้ำของมูลนิธิที่ได้อาศัย

ซึ่งเอาจริงๆเขาก็แอบกลัวอยู่เหมือกันและพอพี่เขาได้ดำน้ำลงไปด้านข้างแล้วน้ำที่มันขุ่นๆอยู่ลงไปอีกปรากฎว่าน้ำนั้นใสสามารถมองเห็นสัตว์น้ำต่างๆได้เต็มที่เลยและเขาก็ได้พบเจอกับโพงหนึ่งมันมีความลึกมากและตามความเชื่อของชาวบ้านเขาบอกว่าโพงแห่งนี้มันสามารถไปได้ถึงใจกลางของเกาะเลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย  หวยดี