ประวัติของ พระเจ้าอักบาร์มหาราช

       สำหรับประวัติความเป็นมาของ พระเจ้าอักบาร์มหาราช นั้น พระองค์เป็นกษัตริย์ที่ครองราชย์มาแล้ว หลาร้อยปี และตอนที่พระองค์ขึ้นครองราชย์ นั้นพระองค์ เป็นกษัติย์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดพระองค์หนึ่ง    พระสมัยของพระองค์ถือได้ว่าเป็นยุคที่รุ่งเรืองมากที่สุดของจักรวรรดิโมกุลในประเทศอินเดียเลยทีเดียว 

    นอกจากความสามารถอันเก่งกาจที่ พระเจ้าอักบาร์มหาราช ที่ทรงสามารถแผ่ขยายดินแดนอินเดียได้อย่างกว้างขวางแล้วความยิ่งใหญ่ของพระองค์ยังอยู่ที่การให้เสรีภาพในการนับถือศาสนาของประชาชนอีกด้วย  โดยพระเจ้าอักบาร์มหาราช นั้นพระองค์มมีวิธีการต่างต่างมากมายในการปกครองประชาชน และการปกครองของพระองค์นั้นก็มีความต่างจากกษัตริย์มุสลิมองค์อื่นอื่นที่ผ่านมามากเลยทีเดียว 

       เนื่องจากว่าหากเป็นกษัตริย์องค์อื่นอื่นนั้น มักจะกีดกันคนนอกศาสนาอยู่เสมอ แต่สำหรับ พระเจ้าอักบาร์มหาราช นั้นพระองค์ทรงมอบเสรียภาพให้กับประชาชน ที่จะเลือกนับถือศาสนาอะไรก็ได้ สำหรับเสรีภาพที่ว่าก็อย่างเช่นทรงแต่งตั้งขุนนางและข้าราชการต่างๆสมัยโมกุลโดยปราศจากอคติทางศาสนา  

     พระองค์ทรงริเริ่มศานาใหม่ในรัชสมัยของตัวเอง โดยมีการตั้งชื่อว่าศาสนา ดินอิอิลาฮี หรือแปลว่าชนะแห่งพระเจ้าซึ่งเป็นความพยายามที่จะรวบรวมศาสนาอิสลามเท่ากับคริสต์อินดู เชนและศาสนาอื่นเพื่อป้องกันความขัดแย้งทางศาสนาที่จะเกิดขึ้นระหว่างประชาชน  และไม่เพียงเท่านั้น 

พระเจ้าอักบาร์มหาราชยังกระทำการที่แตกต่างจากกษัตริย์มุสลิมยุคก่อนอย่างสิ้นเชิงเช่นพระองค์ให้การสนับสนุนให้ผู้ที่นับถือศาสนาต่างกันมีกิจกรรมทางศาสนาที่สามารถทำร่วมกันได้

     พระเจ้าอักบาร์มหาราช ทรงเปิดรับวิทยาการจากทุกศาสนาดังจะเห็นได้จากการที่มีที่ปรึกษาเป็นนักปราชญ์หลายศานาด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นชาวพุทธ   คริสต์   อิสลามและฮินดู   ทรงสั่งให้ยกเลิกการจ่ายภาษี ซีซียา จากบุคคลผู้นับถือศาสนาอื่น

ที่ไม่ใช่มุสลิมและอื่นๆ อีกมากมายด้วยพระอัจฉริยภาพและทัศนคติที่ล้ำสมัยเปิดกว้างดังนี้จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมตลอดระยะเวลาแห่งการครองราชย์ครั้ง 49 ปีถือเป็นช่วงเวลาที่ราชวงศ์โมกุลเจริญรุ่งเรืองถึงจุดสูงสุดแข็งแกร่งที่สุดและมีราชอาณาเขตกว้างไกลที่สุด 

     อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าในปัจจุบันนี้ผู้คนในแต่ละประเทศนั้นจะมีการนับถือศาสนาที่มีความแตกต่างกันออกไปแต่ทุกคนก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขและไม่มีปัญหาทางศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง

ซึ่งคนต่างศาสนาปัจจุบันก็สามารถแต่งงานกันได้และใช้ชีวิตด้วยกันได้ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งซึ่งกันและกันดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าพระเจ้าอักบาร์มหาราชนั้นคือต้นแบบของการให้คนที่นับถือต่างศาสนากันสามารถอยู่ร่วมกันของทุกศาสนาได้อย่างมีความสุขนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย.    aesexy

รัสเซียเตรียมบุกยูเครนในต้นปี65

โดยประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นในข้อพิพาทในพื้นที่ชายแดนระหว่างยูเครนกับรัสเซียที่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีผ่านมาล่าสุดสถานการณ์ในพื้นที่กลับมาตึงเครียดอีกครั้งหนึ่งหลังจากรัสเซียได้มีการส่งทหารไปเกือบ100,000นายเข้าไปประชิดพื้นที่ชายแดนที่ติดกับยูเครนทำให้ตอนนี้ในส่วนของสหรัฐ

ซึ่งเป็นฝ่ายที่หนุนหลังยูเครนอยู่ได้มีการส่งเรือลาดตระเวนชายฝั่งสองลำไปให้กับทางยูเครนแล้วก็บอกว่าพร้อมที่จะช่วยในการเสริมกำลังทหารอย่างเต็มที่ถ้าได้รับการร้องขอมาโดยหน่วยความกรองของยูเครนได้ออกมาประเมินสถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นระหว่ายูเครนกับรัสเซีย

โดยมันอาจจะมีความเป็นไปได้ว่ารัสเซียอาจจะใช้กำลังทางทหารบุกเข้าไปโจมตียูเครนจะเป็นการโมจตีทั้งทางอากาศและทางบกด้วยโดยจะใช้กำลังทหารเข้าไปอย่างน้อยๆ10 เส้นทางด้วยกันใช้กำลังทหารอย่างน้อยๆ 49,000 คนเลยทีเดียวแล้วก้คาดว่าการโจมตีนี้อาจจะเกิดขึ้นจริงในช่วงต้นปีหน้านี้

เพราฉะนั้นก็จะเหลือเวลาแค่เพียง1เดือนเศษๆเท่านั้นในการเตรียมกำลังของทั้งสองฝ่ายสถานการณ์แบบนี้ไม่ดีเลยซึ่งหน่วยข่าวกรองด้านการป้องกันประเทศยูเครนรายงานว่ารัสเซียตอนนี้มีทหารพร้อมรบมากกว่า92,000นายที่ตอนนี้ได้ถูกส่งไปประชิดพื้นที่พรมแดนในฝั่งที่ติดอยู่กับยูเครนและก็เตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีรอบใหญ่ที่คาดว่า

อาจจะเกิดขึ้นภายในสิ้นเดือนมกราคมปี2565หรืออย่างช้าก็จะเป็นต้นเดือนกุมภาพันธุ์โดยตอนนี้มีการสู้รบกันไปมาระหว่างรัฐบาลยูเครนกับกองกำลังแบ่งแยกดินแดนที่เมืองโดเนต

ซึ่งยูเครนได้มองว่ารัสเซียเองที่เป็นฝ่ายอยู่เบื้องหลังกลุ่มกบฎกลุ่มนี้ขระที่องค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือของยุโรปได้มีการเผยแพร่ภาพถ่ายดาวเทียมบางส่วนเกี่ยวกับแนวทางการระดมกำลังของทหารรัสเซียเพื่อนำไปประชิดพรมแดนยูเครนใกล้กับจุดสู้รบในแถบภูมิภาคที่เป็นพื้นที่โดเนต

ส่วนทางด้านผู้บัญชาการของยูเครนอธิบายเพิ่มเติมว่าตอนนี้ในส่วนของทางฝั่งรัสเซียเตรียมโจมตีทั้งภาคทางอากาศและเตรียมการทิ้งระเบิดจากปืนใหญ่นอกจากนั้นยังมีการจัดส่งพลร่มและกองกำลังพิเศษมากขึ้น3,500คนเข้าไปประชิดพื้นที่ยูเครน

ก่อนที่จะวางแผนบุกพร้อมกันอย่างน้อยๆ10แนวรบในพื้นที่รอบชายแดนโดยทั้ง10แนวรบนี้ประกอบไปด้วยกำลังทหาร94,000นายรถถัง1,200คันปืนใหญ่1,600กระบอกเครื่องบินอีก330ลำเรือรบ75ลำเรือดำน้ำ6ลำเรียกได้ว่าทั้งทางบกทางน้ำทางอากาศมาครบ

ภาระกิจนี้เรียกว่าเป็นการบุกรุกอย่างเต็มรูปแบบเต็มสูบเข้าใส่ยูเครนโดยตรงโดยที่ไม่มีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องของสภาพอากาศซึ่งตอนนี้ที่รัสเซียเองอากาศค่อนข้างหนาวเลยทีเดียวเพราะว่าจริงๆแล้วรัสเซียเตรียมการเรื่องนี้มานานพอสมควรในการเตรียมซ้อมรบมาก่อนล่วงหน้าเพื่อจะบุกยูเครน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  หวยฮานอย บาทละ 1000

น้ำมันพรายเสน่ห์นางหลง เรื่องราวน้ำมันพราย

เรื่องราวน้ำมันพราย ตำนานที่เกี่ยวกับไสยศาสตร์ของไทยนั้นนับว่าเป็นอะไรที่น่ากลัวอยู่ไม่น้อยมีทั้งที่ใช้ทำร้ายผู้คนให้ได้รับความทุกข์ทรมานหรือใช้ช่วยเหลือส่งเสริมให้มีชีวิตที่ดีขึ้น

ซึ่งเราจะมีพูดถึงเรื่องของน้ำมันพรายที่เป็นของอาถรรพ์ทางด้านมหาเสน่ห์น้ำมันพรายนั้นขึ้นชื่อเรื่องการสะกดจิตใจบังคับใจด้วยอำนาจของไสยศาสตร์จัดเป็นคุณไสมนดำสายล่างอย่างหนึ่ง นำมันพรายนี้ถ้าหากว่าใครโดนเข้าไปเป็นอันจะต้องเกิดความลุ่มหลงขาดสติต้องยอมมอบกายมอบใจให้แก่ผู้ที่ใช้น้ำมันพรายนั้น

โดยใครที่ถูกใช้น้ำมันพรายไปนานๆในที่สุดก็จะเสียสติวิกลจริตกลายเป็นคนบ้าไปในที่สุดน้ำมันพรายเป็นศาสตร์ชนิดของเหลวและวิธีที่จะได้มานั้นจะต้องนำเอาเทียนไปลนเทียนที่คางของศพเพื่อที่จะเอาน้ำเหลือจากศพมาปลุกเสกด้วยเวทมนต์

ดังนั้นจึงต้องใช้ศพที่ยังสดๆอยู่เท่านั้นและแน่นอนเลยว่าสภาพของศพนั้นย่อมมีการขึ้นอืดบ้างบางครั้งก็ถึงกับเน่าดูน่ากลัวน่ากลัว “ผู้ที่รู้วิชาทำน้ำมันพรายนั้น” ส่วนมากมักจะเป้นอาจารย์ไสยศาสตร์ที่โน้มเอียดไปทางสายมนต์ดำมักจะยึดอาชีพเป็นหมอผีทำน้ำมันพรายจริงบ้างปลอมบ้างเอาออกมาขายกันมากมาย

นอกจากนี้การทำน้ำมันพรายถือเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมอย่างยิ่ง

และเป็นการกระทำที่ทารุณกรรมกับสัตว์อีกด้วยเมือ่การทำน้ำมันพรายนั้นถือเป็นเรื่องต้องห้ามผู้ที่จะปลุกเสกนั้นจึงจำเป็นต้องแอบลักรอบเข้าไปทำในป่าช้าและต้องรีบทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ถ้าทำอะไรช้าๆและมีคนพบเห็นเข้าจะต้องโนญาติพี่น้องของผู้ตายรุมประชาทันอย่างแน่นอน

เนื่องจากนี้ก่อนที่จะทำพิธีในป่าช้านั้นต้องจัดเครื่องเส้นไปให้นายป่าช้าก่อนเชื่อกันว่านายป่าช้าที่ปกปักคุ้มครองภูติผีวิญญาณทั้งหลายคือ ยายกะลา และ ยายกะรี

หรือบ้างท้องถิ่นก็เรียกว่า ปู่สังกะสา ย่าสังกะสี ส่วนของเครื่องเส้นนั้นตามตำราโบราณมักบอกเพียงว่าให้จัดกุ้งพล่าปลายำพร้อมกับเหล้าไปเส้นไหว้แล้วเครื่องเส้นผีตามจารีดนั้นจะใส่เป็นกระทงหรือกระบะสามเหลี่ยม

เมื่อผ่านขั้นแรกมาแล้วขณะหมอผีก็จะพากันไปที่หลุมศพของหญิงสาวตายทั้งกลมและจะสังเกตได้ง่ายเพราะเหนือบนดินของหลุมศพนั้นจะมีหนามพุทราวางอย่ไปทั่วและหนามเหล่านี้ไม่ได้มีไว้เพื่อป้องกันสุนัขที่จะมาคุ้ยศพ

แต่มันเป็นการกระทำของสัปเหร่อที่มีวิชาอาคมได้วางหนามพุทราสะกดวิญญาณไม่ให้ผีตายทั้งหกลมออกมาอาระวาดหลังจากที่เจอหลุมศพแล้วหมอผีจะสัง่ให้เอาหนามพุทราออกให้หมด

ในระหว่างที่ทำการเอาหนามออกและได้ทท่องคาถาเพื่อถอนหรือคายมนต์สะกดไปด้วยหลังจากถอนมนต์สะกดออกไปแล้วหมอผีจะใช้มีดหมอปักลงดินแล้วงัดเปิดขึ้นมารอบๆหลุมศพเป็นการเบิกธรณีก่อนที่จะให้ผู้ติดตามขุดดินปาดหลุมออกจนถึงฝาโลง

 

สนับสนุนโดย.  เว็บหวย ไม่มี เลขเต็ม เลขปิด

OYMYAKON (โอมยาคอน) หมู่บ้านที่หนาวที่สุดในโลก

ที่นี่บนขอบทวีปยูเลเซียคือดินแดนไซบีเลียที่หนาวเหน็บอันเป็นที่ตั้งของสิ่งหลงเหลือจากยุคน้ำแข็ง แต่ว่ามีผู้คนมาอาศัยอยู่ในในป่าที่มีแต่หิมะนี้ของยาคูเทีย OYMYAKON (โอมยาคอน) โดยอยู่ภายใต้อุณหภูมิที่หนาวเหน็บที่สุด ผู้ปกป้องดินแดนแห่งนี้คือชาวซาฮาที่อาศัยอยู่ที่นี่มาร่วมพันปีแล้ว

โอมยาคอนตั้งอยู่ใจกลางภูมิประเทศที่มีแต่น้ำแข็งยกเว้นเพียงแม่น้ำสายหนึ่ง โดยบูชาเทพป่า ทะเลสาบ ไฟ และฤดูหนาวชาวซาฮาดำรงชีวิตในสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายแบบนี้ได้ เราจะพาคุณไปยังโอมยาคอนเพื่อไปพบกับผู้ที่อาศัยที่อยู่ในพื้นที่ที่หนาวเหน็บมากที่สุดในโลก

ประเทศที่หนาวที่สุดในโลกคือสาธารณะรัฐซาฮาที่ตั้งอยู่ในไซบีเรีย หรือทางตะวันออกไกลของรัสเซียมันต้องใช้เวลาในการเดินทางสองวันทางอากาศเพื่อมาถึงที่นี่ โดยต้องแวะพักที่วลาดีวอสตอค ยาคูซคือเมืองหลวงของสาธารณะรัฐซาฮาที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย ประเทศนี้ได้รับอิสรภาพหลังการร่มสลายของสหภาพโซเวียด

มันถูกเรียกว่ายาคูซ โดยชาวซาฮาที่เป็นครึ่งหนึ่งของประชากรของประเทศนี้ อุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูหนาวติดลบ 40 องศาในเมืองนี้ทุกสิ่งอาจกลายเป็นน้ำแข็งได้ภายในพริบตา กระทั่งตลาดที่ดูคึกคักกับทุกอย่างที่อยู่ในนั้นก็ดูเหมือนจะถูกแช่แข็งอยู่ อุณหภูมิบนท้องถนนก็ไม่ได้แตกต่างจากอุณหภูมิที่อยู่ในตู้เย็นของเรา ผลก็คือผักและผลไม้มีราคาแพงกว่าเนื้อหลายเท่าในยาคูซ

มันคือโอเอซิดอารยธรรมที่ตั้งอยู่ท่ามกลางแผ่นดินที่มีแต่หิมะและน้ำแข็งและดึงดูดผู้คนเข้ามาจากพื้นที่รอบๆซาฮา หลังเสร็จสิ้นการค้าขายในเมืองแล้วพวกเขาจะกลับไปยังพื้นที่ที่ห่างไกลของสาธารณรัฐซาฮา พวกเขาต้องนำอาหารจำนวนมากกลับไปด้วยเพื่อเตรียมพร้อมเรื่องที่คาดไม่ถึงที่อาจเกิดขึ้นในป่าที่มีแต่หิมะของโอมยาคอน

กระทั่งสิ่งของที่จำเป้นก็ยากที่จะหามาได้ โอมยาคอนอยู่ห่างจากยาคูซ 550 กิโลเมตร และตลอดเส้นทางที่ยาวไกลนี้ก็มีแต่ท้องทุ่งและภูเขาที่มีแต่หิมะและแม่น้ำขนาดใหญ่ ในยุคของสตาร์นิลนักโทษการเมืองมากมายถูกส่งมาทำงานสร้างถนนสายนี้จนตายและถูดฝังอยู่ที่นี่ ดังนั้นถนนสายนี้จึงถูกเรียกว่าถนนมรณะ

เนื่องจากรถอาจจะแข็งได้เมื่ออยู่ในสภาวะเช่นนี้ดังนั้นพวกเขาจึงต้องขับจนแทบไม่ได้หยุดและหลังจากการเดินทางได้หนึ่งวันในที่สุดพวกเขาก็ได้พัก

จากนั้นพวกเขาก็มาถึงแอ่งโอมยาคอนที่ว่ากันว่าน้ำตาอาจกลายเป้นน้ำแข็งได้ถ้าเจอกับลมหนาว แต่มีแม่น้ำสายหนึ่งที่ไหนผ่านโอมยาคอนที่ไม่เคยกลายเป็นน้ำแข็งมันคือแม่น้ำสายนี้ที่ช่วยหล่อเลี้ยงชาวโอมยาคอนมาแล้วหลายรุ่น

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.   WM Casino

กระเป๋าที่เราใช้งานอยู่ทุกวันมีที่มาอย่างไร

กระเป๋าที่เราใช้งานนั้นก็นับว่าเป็นแฟชั่นอย่างหนึ่งที่มีการใช้อย่างแพร่หลาย และมีประวัติความเป็นมาที่ไม่ธรรมดาเลย ซึ่งยุคแรกๆของกระเป๋ามีการใช้ กระเป๋ามีที่มาอย่างไร เพื่อใช้งานเพียงเท่านั้นซึ่งมีการประกอบเป็นรูปร่าง จากการนำผ้า หนังสัตว์หรือวัตถุดิบที่หาได้ง่ายที่มีความเหนียว และทนทานมาใช้ทำเป็นกระเป๋า

ผู้ที่ต้นคิดก็คือพระสงฆ์ ที่ทวีปแอฟริกา เพื่อที่จะใช้เป็นที่ที่เอาไว้เก็บพระเครื่องและเครื่องรางทั้งหลาย และต่อมาก็ได้มีการแพร่หลายขึ้นในผู้หญิง และเริ่มเกิดเป็นแฟชั่นตามมา

ยุคปี ค.ศ.ที่ 1500-1800

จะเป็นยุคที่กระเป๋าถือและกระเป๋าแขวนได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งในผู้ชายและผู้หญิง เป็นเพราะพวกเขาต้องทำการพกเงินสดและของส่วนตัวออกไปข้างนอกและกระเป๋าในสมัยนั้นจะมีรูปแบบแตกต่างกันไป เช่น กระเป๋าที่มีการใช้เชือกถักยาว กระเป๋าที่มีการใช้ตะขอ กระเป๋าหนัง

และกระเป๋าแบบถุงสะพายจะเป็นกระเป๋าที่หายากมากในสมัยนั้น และส่วนกระเป๋าที่กล่าวมานั้นจะเป็นการใช้ติดสายพานหรือเข็มกัด เพราะการแต่งตัวในสมัยนั้นเป็นการแต่งตัวโดยแต่งตัวแบบที่บ่งบอกถึงสถานะทางสังคม เช่น มีการตกแต่งของอัญมณีที่ล้ำค่าต่างๆ

ยุคปี ค.ศ. ที่ 1800-1900

ในสมัยนั้นจะมีการค้นพบ เมืองโรมันแห่งปอมเปอิ ซึ่งมีการค้นพบในศตวรรษที่ 18 ซึ่งสิ่งที่เป็นของที่มีลักษณะคล้ายกับ กรีกโบราณและโรมันโบราณ จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในสมัยนั้น ซึ่งจะมีการทำกระเป๋าแนวโบราณมากและได้มีดารพัฒนาของแฟชั่นขึ้นเรื่อยอีกด้วย

ยุคปี ค.ศ. ที่ 1900-ปัจจุบัน

เป็นการผลิตกระเป๋าที่มีศิลปะและแฟชั่นเข้ามาผสมอย่างมากและมีการวิวัฒนาการของกระเป๋ามากขึ้น ตามความต้องการ และกระเป๋าถือของผู้หญิงมีการใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆและมีอิทธิพลมากที่สุดในการที่จะสร้างกระเป๋า

และมีการใช้แรงงานผู้หญิงมากขึ้นเรื่อยๆเพราะฉะนั้นจะทำให้ตอบสนองความต้องการของผู้หญิงมากขึ้น และส่งผลให้มีกระเป๋าที่สามารถใช้งานได้หลากหลายตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานและช่วงปีศตวรรษที่20 ได้มีนักออกแบบกระเป๋าเพิ่มขึ้นมากมาย และมีนักออกแบบกระเป๋าหนังหรือกระเป๋าถือที่รู้จักหรือโด่งดังกั

นทั่วโลก เช่น Gucci, Louis Vuitton, เป็นต้น และยังมีนักออกแบบแฟชั่นที่โด่งดังเกิดขึ้นมาอีกด้วย เช่น Dior, Chanel, Versace เป็นต้น และกระเป๋าเป็นสิ่งที่เปียบเสมือนอุปกรณ์เสริมที่สำคัญในแฟชั่น

ที่ซึ่งจะเป็นไปในแต่ล่ะฤดูการต่างๆไปแล้ว และนอกจากนี้กระเป๋าจะทำให้แสดงถึงการบ่งบอกรสนิยมของคนๆนั้นได้อีกด้วย เช่น ชอบกระเป๋าแนว แฟชั่น เรียบหรู และการใช้งานโดยเฉพาะ

 

ได้รับการสนับสนุนเรื่องราวโดย    wm เครดิตฟรี 100

DIY ทำกล่องดินสอน่ารักๆด้วตัวเองง่ายๆ

DIY ทำกล่องดินสอ สำหรับทุกคนแล้วนั้นเชื่อว่าทุกคนต่างก็ต้องอยากมีอุปกรณ์น่ารักๆเอาไปใช้กัรใช่มั้ยคะ วันนี้เราจะมาสอนดีอวายการทำกล่องดินสอด้วยตนเอง โดยจะมีทั้งหมเสามแบบค่ะ โดบขอบอกเลยว่าเรานั้นไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์เยอะมาก หลักเลยนั้นก็คือ ปากกามาค์เกอร์ กระดาษแข็ง กาวร้อน 

กล่องดินสอรูปผลไม้

ก่อนอื่นให้เรานั้นนำกระดาษแข็งมาและนำดินสอมาวาดรูปเป็นรูปผลไม้เช่นวงกลมสำหรับการขึ้นรูปแอปเปิ้ลซ่อมหรือเชอร์รี่หลังจากที่เราทำการวาดรูปร่างนิดๆเสร็จแล้วก็ให้นำกรรไกรมาตัดตามรอยข องดินสอค่ะนอกจากนั้น

เรายังสามารถที่จะทำเป็นรูปทรงอื่นๆได้นำกระดาษสีอื่นๆมาทำเป็นลวดลายสำหรับตกแต่งกล่องดินสอของเราได้อีกด้วย นำกระดาษนั้นมาติดกาวเข้าด้วยกันให้ดูเป็นรูปเป็นร่าง

สมมุติว่าถ้าคุณนั้นวาดรูปวงกลมเอาไว้สำหรับทำเป็นส้มคุณก็จำเป็นที่ต้องนำกระดาษสีเดียวกันนำมาวาดรูปวงกลมให้ขนาดเท่ากันกับรูปวงกลมอันแรกและให้นำมันมาทากาวและเอาไปติดที่วงกลมอันแรก

เพื่อให้กลายเป็นช่องสำหรับเป็นกระเป๋าและใส่ของได้ และคุณยังสามารถที่จะรวยเละๆกากเพชรน่ารักๆรวมถึงว่าดวงตาจมูกปากน่ารักๆเพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับกล่องดินสอด้วย 

ขวดพลาสิติกเก็ปปากกาและดินสอ

นำขวดพลาสติกของคุณมาหลังจากนั้นให้นำปากกา Marker ที่มีความติดทนทานถาวร มาวาดลวดลายน่ารักๆบนขวดน้ำพลาสติกของคุณ นอกจากนั้นคุณยังสามารถที่จะนำกระดาษแข็ง

หรือกระดาษโฟมน่ารักๆมาวาดรูปเป็นชิ้นส่วนเล็กๆน่ารักตามที่คุณต้องการและนำมาตกแต่งประดับตามขวดพลาสติกของคุณให้ดูมีลวดลายที่น่ารักมากขึ้น เราก็สามารถที่จะใส่ปากกาดินสอยางลบไม้บรรทัดลงไป

ในขวดพลาสติกนี้ได้ซึ่งขวดพลาสติกนี้ก็จะกลายเป็นกรดพลาสติกเก็บปากกาและดินสอของเราได้เป็นกล่องดินสออันนึงนี่เอง 

กล่องดินสอ Nutella

โดยให้เรานั้นนำกระป๋องช็อกโกแลตของแบรนด์ Nutella มาล้างให้สะอาดหลังจากที่สะอาดและแห้งเรียบร้อยแล้วนั้นให้เรานั้นนำสีอะคริลิคมาระบายสีข้างในตามลวดลายที่เราต้องการเลยค่ะเสร็จแล้วเราสามารถที่จะนำกระดาษสีขาวหรือสีต่างๆ

มาวาดลวดลายและนำไปแปะบ่นขวด ของ Nutella ได้ค่ะหลังจากที่เราตกแต่งอย่างเรียบร้อยและสวยตามใจเราแล้วเราก็หาของที่มีความแข็งมากมาเจาะเป็นรูขนาดพอสำหรับใส่ปากกาของเราลงไปแค่นี้เราก็ได้ช่องใส่ปากกาในกระป๋องนูเทลล่าง่ายๆแล้วค่ะ แค่นี้เราก็ได้กล่องดินสอน่ารักมาแล้วค่ะ

 

สนับสนุนโดย.  aesexy

ประวัติข้อมูลของประเทศอินเดีย

         เชื่อว่าหลายคนรู้จักประเทศอินเดียกันเป็นอย่างดีเนื่องจาก ข้อมูลของประเทศอินเดีย นั้นนับเป็นประเทศหนึ่งที่ติดอันดับที่มีประชากรมากที่สุดและอาจจะกล่าวได้ว่ามีประชากรน้อยกว่าประเทศจีนเพียงประเทศเดียวเท่านั้นสำหรับประเทศอินเดียยังนับเป็นประเทศที่มีขอทานมากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้นับเป็นประเทศที่มีความยากจนติดอันดับโลก

  เกี่ยวกับ ข้อมูลของประเทศอินเดีย นั้นได้มีการก่อตั้งตนเองขึ้นเป็นสาธารณรัฐขึ้นมาโดยตามข้อมูลแล้ววันชาติอินเดียคือวันที่ 26 เดือนมกราคมปีพุทธศักราช 2490 ซึ่งในวันดังกล่าวนั้นประเทศอินเดียจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองเกิดขึ้น

โดยจะมีการจัดงานขึ้นในเมืองหลวงของประเทศอินเดียซึ่งก็คือเมืองนิวเดลีภายในเมืองจะมีการตกแต่งประดับประดาดอกไม้เอาไว้อย่างสวยงามมีการแห่ขบวนของช้างและมีการเดินสวนสนามกันด้วย

        อย่างไรก็ตามประเทศอินเดียนั้นนับเป็นประเทศที่มีความเก่าแก่ยาวนานมากประเทศหนึ่งเลยก็ว่าได้เนื่องจากประเทศอินเดียนั้นมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากมายหลายอย่างอีกครั้งยังมีข้อมูลสามารถระบุได้ว่าประเทศอินเดียนั้นมีมาตั้งแต่ก่อนคริสตกาลหรือว่ามีอายุมากกว่าเกิน 2,500 ปีมาแล้วโดยในครั้งแรกนั้นว่ากันว่าประชาชนต่างก็อาศัยอยู่ตรงบริเวณแม่น้ำสินธุซึ่งเป็นแม่น้ำยุคแรกๆที่เป็นบ่อเกิดของอารยธรรมของคนเดียร์ 

         และพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่มากที่สุดของประเทศอินเดียและมีผู้คนกล่าวขวัญถึงรวมถึงมีผู้คนรู้จักมากที่สุดนั่นก็คือพระเจ้าอโศกมหาราชซึ่งในบทเรียนของประวัติความเป็นมาของประเทศอินเดียในโรงเรียนไทยก็มีการพูดถึงพระเจ้าอโศกมหาราชเช่นเดียวกันโดยระบุว่าพระองค์นั้นคือกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดพระองค์หนึ่ง

และที่สำคัญพระองค์นั้นเป็นกษัตริย์ที่นับถือศาสนาพุทธและมีการเผยแพร่ศาสนาพุทธให้มีความเจริญรุ่งเรืองในยุคหนึ่งเลยก็ว่าได้ซึ่งในขณะนั้นพระองค์ขึ้นครองราชย์เมื่อช่วงประมาณปีพุทธศักราช 274   แน่นอนว่าเด็กนักเรียนส่วนใหญ่ที่รู้จักพระเจ้าอโศกมหาราชนั้นก็เนื่องจากว่ามีการเรียนวิชาพระพุทธศาสนาของไทยนั่นเอง

         สำหรับพระเจ้าอโศกมหาราชนั้นนับได้ว่าเป็นผู้ที่เผยแพร่พระพุทธศาสนาที่ยิ่งใหญ่อีกทั้งยังเป็นกษัตริย์ที่มีความเก่งกาจสามารถในการออกศึกสงครามและพระองค์ยังเป็นผู้ที่สร้างสัญลักษณ์ของอินเดียขึ้นมาสัญลักษณ์ที่ว่านั้นก็คือเสาหิน

ซึ่งเป็นรูปสิงห์โดยพระองค์สร้างสัญลักษณ์นี้เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานในการที่พระองค์นั้นพาผู้คนไปล้มละลายในการทำศึกสงครามถึงแม้ว่าการศึกสงครามของพระองค์นั้นจะสามารถคว้าชัยชนะมาให้พระองค์ได้ก็ตามที  

          และช่วงประมาณปีพุทธศักราช 2299 ประเทศอินเดียก็ตกเป็นประเทศในอาณานิคมของประเทศอังกฤษและกว่าที่จะสามารถมาเป็นเอกราชของตนเองได้ก็ต้องใช้เวลาหลายปีซึ่งเป็นช่วงปีพุทธศักราช 2490 นั่นเอง

 

สนับสนุนโดย.    ae บาคาร่า

ประวัติศาสตร์โลกญี่ปุ่นบุกไทย

กองทัพเรือญี่ปุ่นได้เข้าโจมตีฐานทัพเรืออเมริกันที่เพิร์ลฮาร์เบอร์ซึ่งได้อยู่ห่างจากเกาะญี่ปุ่นถึง3พันไมล์ในเช้าวันที่7ธันวาคม ปีพุทธศักราช2484 แล้วจึงได้ประกาศสงครามกับอังฤกษและอเมริกา

ประวัติศาสตร์โลกญี่ปุ่นบุกไทย

ในขณะนั้น จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการทหารสูงสุดของประเทศไทยกำลังตรวจแนวป้องกันชายแดนทางด้านตะวันออกตอนกลางคืนของวันที่7ธันวาคม เป็นวันอาทิตย์ชาวกรุงเทพกำลังหลั่งไหลเข้าไปในสวนอัมพรเพื่อชมมการลองไฟสำหรับฉลองรัฐธรรมนูณ

ซึ่งเป็นงานใหญ่ประจำปีได้มีถึง7วัน7คืนเวลาประมาร4ทุ่มหางจากฝูงชนที่กำลังสำราญใจกับแสงสีราวๆ200เมตรทูตญี่ปุ่นและคณะได้เข้าไปในวังสวนกุหลาบทำเนียบนายกรัฐมนตรีขอพบนายกรัฐมนตรีเป็นการด่วนที่สุด

พลตำรวจตรี อดุล อดุลเดชรจรัส รองนายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีส่งคนไปตามนายกรัฐมนตรีและส่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศพบกับคณะทูตญี่ปุ่น

นอกจากนี้เอกอากราชทูตญี่ปุ่นได้แจ้งว่าญี่ปุ่นได้ประกาศสครามกับอังกฤษและอเมริกาและได้รับคำสั่งจากรัฐบาลญี่ปุ่นให้แจ้งต่อรัฐบาลไทยว่ากองทัพญี่ปุ่นขอผ่านประเทศไทยไปตีมาลายูและสิงค์โปรขออย่าให้ไทยขัดขวางเขาขอรับรองว่าจะเคารพอธิปไตยของไทยของให้ไทยตกลงยินยอมภายใน1นาฬิกาของวันรุ้งขึ้นคือในวันที่8ธันวาคม

ประวัติศาสตร์โลกญี่ปุ่นบุกไทย เนื่องจากนี้รองนายกรัฐมนตรีได้เปิดคณะประชุมรัฐมนตรีเมื่อเวลาประมาณ23นาฬิกาคณะรัฐมนตรีมีมัตติให้ นายดิเรก ชัยนาม รัฐมนตรีต่างประเทศ นายปรีดี พนมยง รัฐมนตรีคลังและพระเจ้าวันวัยทยากรไปพบคณะทูตญี่ปุ่นของยืดเวลาต่อเป็น5นาฬิกาเพื่อรอการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี

ซึ่งในตำแหน่ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมีอำนาจสั่งทหารแต่เพียงผู้เดียวในระหว่างที่ได้รอนายกรัฐมนตรีก็มีรายงานเข้ามาว่าทหารญี่ปุ่นได้ขึ้นบกที่ สงขลา ปัตตานี  นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ ทหารและตำรวจไทยได้ต่อต้านทหารญี่ปุ่นบางแห่งยุวชนทหารได้เข้าร่วมรบด้วยบางแห่งทำการรบกันรุนแรงถึงขั้นตะลุมบอนต่างฝ่ายต่างก็บาดเจ็บล้มตายกันเป็นอันมาก

ดังนั้น จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีได้เดนทางกลับมาถึงพระนครเวลาประมาณ06.50นาทีวันที่8ธันวาคมเมื่อเข้าที่ประชุมแล้วก็ได้ทราบเรื่องราวจากนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นได้ทราบกันแล้วว่ากองทัพเรือญี่ปุ่นได้โจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ได้ลำเรียงทหารขึ้นบกที่ โกตาบารู รัฐกลันตัน กองทัพอากาศญี่ปุ่นโจมตีสิงค์โปรสรุปแล้วประเทศญี่ปุ่นนั้นได้เปิดฉากในการรบอยู่หลายแห่ง

เพราะฉะนั้นแล้วทางฝ่ายสัมพันธมิตรพวกกันเอาไว้ไม่ได้และคงไม่มีทางที่จะช่วยไทยได้คณะรัฐมนตรีได้อภิปรายกันอย่างเคร่งเครียดและรอบคอบเห็นว่าไทยไม่มีทางสู้ญี่ปุ่นตามลำพังจึงตกลงให้นายกรัฐมนตรีสั่งให้หยุดยิงเมื่อเวลา07.30นาทีในที่สุดคณะรัฐมนตรีได้ให้รับมนตรีต่างประเทศลงนามในข้อตกลงระหว่างผู้แทนไทยและญี่ปุ่น

 

สนับสนุนโดย    ชุดตรวจ hiv

วิหาร1,300ปี ยังเป็นข้อถกเถียงกันว่าถูกสร้างขึ้นจากอุปกรณ์อะไร?

    วิหาร1,300ปี หรือวิหารไกรลาศหรือที่เรารู้จักกันในอีกชื่อว่าวิหารพระศิวะหนึ่งในปริศาสนาของโลกที่ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าจริงๆแล้วที่วิหารแห่งนี้มันถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร เพราะด้วยกลไกวิศวกรรมบางอย่างชี้ชัดได้ว่ามนุษย์ในยุคนั้นไม่มีทางที่จะสามารถสร้างสถาปัตยกรรมในลักษระนี้ได้เลย

ซึ่งวิหารไกรลาศได้ตั้งอยู่ในพื้นที่ถ้ำเอโรล่าประเทศอินเดียจากการตรวจสอบพบว่าวิหารแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อราว1,300ปีที่แล้วจากเรื่องเล่าตามตำนานได้ระบุเอาไว้ว่ากษัตริย์ที่ชนะผู้ป้องครองจักรวรรดิราชกุดที่ถือเป็นมหาอำนาจในอินเดียทางตอนใต้ในยุคนั้นได้เป็นผู้ก่อสร้างวิหารแห่งนี้ขึ้นมา

เนื่องจากพระมเหสีได้เกิดอาการล้มป่วยจากโรคที่ไม่อาจจะรักษาให้หายขาดได้พระองค์จึงได้อธิษฐานจิตต่อพระศิวะว่าจะสร้างวิหารถวารให้หากพระนางนั้นได้หายเป็นปกติในที่สุดอาการป่วยของพระนางก็ทุเลาลงแล้วหายขาดจากโรคดังกล่าวพระองค์จึงได้สร้างวิหารแห่งนี้ขึ้น

จากการตรวจสอบพบว่า วิหาร1,300ปี ได้ใช้เวลาสร้างทั้งสิ้น8ปีจึงแล้วเสร็จมีความสูงของตัววิหาร18.29เมตรและความยาวอยู่ที่60.29เมตรเต็มไปด้วยช่องทางลลับใต้ดินลึกลงไป40-50ฟุตบางจุดมีความยาวกว่า10เมตรโดยเส้นทางดังกล่าวมีขนาดเล็กกว่าเกินที่มือของมนุษย์จะแทรกเข้าไปได้

นอกจากนี้คำถามก็คือสมัยเมื่อ1,300ปีที่แล้วมีอุปกรณ์ชนิดไหนกันที่จะสามารถขุดเจาะเส้นทางในลักษณะเช่นนี้ได้และนี่มันไม่ใช่เหตุผลเดียวที่จะทำให้วิหารไกรลาศมีชื่อเสียงแล้วถูกพูดถึงแต่เป็นเพราะวิหารดังกล่าวสร้างจากการแกะสลักก้อนหินก้อนใหญ่เพียงก้อนเดียว

เหล่านักวิทยาศาสตร์ได้คาดการณ์ว่าหินก้อนนี้น่าจะมีน้ำหนักโดยรวมที่มากกว่า400,000ตันนับววส่าเป็นเรื่องที่แปลกมากๆเพราะโดยปกติแล้วสถาปัตยกรรมลักษณะนี้จะแกะสลักจากด้านนอกเข้าไปยังด้านในแต่วิหารไกรลาศกลับใช้วิธีการก่อสร้างในการแกะสลัดจากด้านบนลงไปยังด้านล่าง

เนื่องจากอุปกรณ์ของช่างในยุคนั้นจะมีเพียงแค่ค้อนปอนด์ลิ่มสิ่วจึงเป็นไปด้วยความยากลำบากแต่วิหารแห่งนี้กลับใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างสำเร็จในระยะเวลา18ปีเท่านั้นจากการทดลองของนักวิทยาศาสตร์ที่ได้ตั้งสมมุติฐานเอาไว้ว่าหากจะต้องขนซากหินจากการแกะสลัดในทุกๆวันวันละ12ชั่วโมง

โดยประเมิลจากคนงานที่น่าจะเหมาะสมกับพื้นที่คือ1,000-2,000คนกลับปรากฎว่าในระยะเวลา18ปีจะไม่สามารถขนหินดังกล่าวออกจากพื้นที่ได้หมดนี่ยังไม่รวมถึงการแกะสลัดงานที่ละเอียดอ่อนที่แม้แต่ในช้างปัจจุบันมีเครื่องมือที่ทันสมัยอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการแกะสลัดมากกว่า5-10ปี

 

สนับสนุนโดย.    หวยออนไลน์บาทละ 1000

กระบวนการพัฒนาของงานศิลปะ 

กระบวนการของศิลปะต่างๆจึงค่อนข้างมีการเปลี่ยนแปลงทั้งกระบวนการและรูปแบบในการทำงานส่วนใหญ่ในยุคปัจจุบันที่รูปแบบการทำงานต่างๆ มีการสอดคล้องและมีการพัฒนาที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นทำให้งานศิลปะต่างๆที่ถูกใช้ในงานรูปแบบใหม่ๆ

และการเปลี่ยนแปลงของสภาพสังคมต่างๆที่ถูกส่งต่อและถูกพัฒนาต่างๆเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานต่างๆมากมายประวัติศาสตร์ได้บ่งชี้ให้เห็นว่า รูปแบบของงานและการเปลี่ยนแปลงต่างๆทางวัฒนธรรมส่งผลโดยตรงต่อสังคมและการเปลี่ยนแปลงทางด้านแนวคิดของผู้คนมาแล้วมากมาย

ไม่ว่าจะเป็นอดีตหรือปัจจุบันโดยเฉพาะรูปแบบการทำงานในยุคปัจจุบันที่อาศัยล่องลอยค้นหา กำหนดรูปแบบในการทำงานใหม่ๆที่เพิ่งวิ่งขึ้นนี้ ส่งผลให้การเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆที่เกิดขึ้นมากมาย ในยุคปัจจุบันที่การสร้างสรรค์และพัฒนารูปแบบของงานศิลปะต่างๆ

มีจำนวนที่เพิ่มขึ้นนี้แท้จริงแล้วประวัติศาสตร์ของมนุษย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงและมีการพัฒนาทางสภาพสังคมและการเปลี่ยนแปลงทางการทำงานของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการทำงานลักษณะการทำงานนอกเขียนหรือแม้แต่จะเป็นรูปแบบของงานประติมากรรมต่างๆที่ถูกเพิ่มมากยิ่งขึ้น

ในยุคสมัยในยุคปัจจุบันมีความสามารถที่เพิ่มขึ้นในความเข้าใจในการประกอบการทำงานต่างๆนี้จึงเป็นส่วนที่ทำให้งานสื่อต่างๆมีการพัฒนาส่งต่อมาจนถึงยุคปัจจุบันที่งานต่างๆเหล่านี้ได้มีการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงในส่วนของรูปแบบการพัฒนาและลักษณะการทำงาน

ตามแนวคิดแล้วผลงานศิลปะจำนวนมากที่ได้รับการถ่ายทอดไม่ว่าจะเป็นผลงานประติมากรรมต่างๆหรืองานศิลปะอื่น ๆ อีกมากมายได้ถูกส่งต่อไปยังคนรุ่นต่อไป การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ช่วยปรับปรุงความคิดของผู้คนและคุณภาพของความคิดของพวกเขา ลักษณะการทำงานที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ศิลปะเป็นการแสดงความคิดที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและยังเป็นส่วนหนึ่งของงานทุกด้าน ดังนั้นผู้คนจึงจำเป็นต้องศึกษาประวัติศาสตร์และศิลปะไทย ปัจจุบันมีหอศิลป์และวัฒนธรรมท้องถิ่นมากมายในสถานที่ต่างๆเช่นพิพิธภัณฑ์และสถาบันการศึกษาสถานที่เช่นศิลปะประจำชาติและสถานที่ต่างๆ

วิวัฒนาการของงานศิลปะในส่วนของการสร้างสรรค์และภาพที่ปรากฏมากมายบ่งชี้เห็นว่าวัฒนธรรมการเปลี่ยนแปลงและการอยู่รอดของผู้คนต่างๆ ไม่ถูกสะท้อนให้เห็นถึงลักษณะของประวัติศาสตร์ทางสังคม

หรืออาจจะเป็นในส่วนของลักษณะงานศิลปะต่างๆที่ทิ้งร่องรอยวัฒนธรรมความเป็นอยู่หรือแม้แต่จะเป็นความผูกพันของผู้คนในชุมชน และสถานที่ต่างๆที่สะท้อนถึงเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นหรือไม่อธิบายเหตุการณ์สำคัญความเชื่อ

และการอยู่อาศัยของผู้คนในพื้นที่ต่างๆมากมายซึ่งก่อให้เกิดรูปแบบโครงงานศิลปะต่างๆมาแล้วในยุคปัจจุบันจนถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านวัฒนธรรมและความรู้ของผู้คนที่ยังคงมีการศึกษาอยู่แม้วันเวลาจะผ่านไปมากมาย

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    บาคาร่า sa